เครื่องจักรหนักเดินหน้ารื้อถอนเต็มกำลัง ส่งทีมกู้ภัยค้นหาผู้สูญหาย

2 เม.ย.- เครื่องจักรหนักเดินหน้าเต็มกำลัง “หยิบ ยก รื้อ” แผ่นปูน-โครงเหล็ก หลังยังไม่มีสัญญาณพบผู้สูญหายเพิ่ม ด้านนายกสภาวิศวกรเผยเจ้าหน้าที่เร่งขุดโพรง 3 โซนหลัก พร้อมส่งทีมกู้ภัยฯ ค้นหาผู้สูญหาย หวังพบผู้รอดชีวิต


ความคืบหน้าของปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารในโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ จตุจักร ถล่ม ขณะแผ่นดินไหว เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเสียงสัญญาณแตรลมดังขึ้น 3 ครั้ง เครื่องจักรทุกชนิดหยุดทำงาน เนื่องจากมีรายงานพบสัญญาณชีพ บริเวณกองซากอาคาร สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โซน D ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งไทยและนานาชาติได้เข้าพื้นที่สำรวจพร้อมกับนำสุนัขดมกลิ่นตรวจหาสัญญาณชีพผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง แต่ปรากฏว่าสัญญาณที่พบอ่อนมาก จากนั้นได้มีการส่งสัญญาณ เครื่องจักรหนักทุกชนิดกลับมาเดินเครื่องทำงานอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง เป็นความหมายที่รู้กันว่ายังไม่มีการพบผู้ประสบภัยที่สูญหายเพิ่ม และเสียงเครื่องจักร รวมถึงฝุ่นกลับมาคละคลุ้งกระจายเต็มพื้นที่ ท่ามกลางความหวังของญาติทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทั้งสัญชาติเมียนมาและกัมพูชา ต่างมายืนรอด้วยใจที่จะจดจ่ออย่างมีความหวังว่าคนในครอบครัว และญาติของพวกเขาจะยังคงรอดชีวิต

โดยเวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นำรถน้ำฉีดพรมน้ำขึ้นไปบริเวณกองซากอาคารที่ถล่ม เพื่อเป็นการลดฝุ่นโดยไม่กระทบกับตัวโครงสร้าง ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญได้มีการประเมินแล้ว


ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร เปิดเผยว่า การใช้เครื่องมือหนักดึงรั้งไว้เพื่อให้คนเข้าไปหาข้างใน เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นหากไม่เจอก็จะถอนกำลังและจะใช้เครื่องจักรหนักทำงานต่อเพื่อหาโพรง เพราะโอกาสที่ผู้ประสบภัยจะรอดชีวิตจะอยู่ในโพรง แม้จะเลยเวลามาแล้วแต่พยายามทำคู่ขนานกันไป เพราะหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ที่จะช่วยชีวิตเขาได้ จึงจะทำในลักษณะนี้สลับกันไป โดยผู้รอดชีวิตอาจจะอยู่ตามโพรงใหญ่ จุดพัก ช่องบันได เท่าที่ค้นหาดูแล้วมีโอกาสที่จะมีอากาศหรือออกซิเจนอยู่ เพราะเมื่อขุดเข้าไปถึงโพรงพบว่าภายในโล่ง แต่ไม่สามารถเอาตัวคนลอดเข้าไปได้จะต้องใช้กล้องลงไปส่องดู จึงมีโอกาสที่จะมีอากาศไหลเข้าไป หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์อยู่ตรงนั้น ขณะเดียวกันได้พยายามลดน้ำหนักบริเวณโซน C และ D เพื่อจะนำของหนักๆ ออก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ กล่าวว่า คนส่วนใหญ่หากจะหนี จะหนีไปทางบันไดและปล่องลิฟท์ เมื่อมาถึงจุดหนึ่งจะมีสิ่งมากีดขวาง หากวิ่งหนีออกมาไม่ได้บางส่วนก็อาจจะหลบอยู่ที่ลานจอดรถใต้ดิน อุปสรรคช่วงแรกจะเห็นว่าพื้นทับกันเป็นชั้นในลักษณะแพนเค้ก พื้นที่ทับกันเป็นชั้นทำให้ยากต่อการที่จะทะลวงให้เป็นรูแล้วลงไปถึงด้านล่างและยากต่อการดึงออกทั้งแผงเนื่องจากยาวมาก หากจะยกออกทั้งแผงจะต้องเคลียร์วัสดุออกก่อน โดยเฉพาะเสาที่ล้มลงมาถูกโยงกันด้วยเหล็ก สันนิษฐานว่าอาจเป็นรอยต่อระหว่างพื้นกับเสา เมื่ออาคารล้มลงมาก็ต้องมีเหล็กผูกฉะนั้นจะต้องมีการตัดเหล็กก่อน หากจะยกพื้นชั้นบนออกก็จะทำให้ติดเสา จะต้องดึงตัวที่เป็นเสาออกก่อน จากนั้นจะต้องปรับระดับความสูงที่อยู่ด้านบนให้ใกล้เคียงกันเพื่อปรับสมดุลไม่ให้ไหลลงมาเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับทีมกู้ภัย โดยจะทำเป็นขั้นบันไดไล่เลียงขึ้นไป ได้เริ่มกระบวนการไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ได้ใช้เครื่องมือหนักในโซน C และ D ส่วนโซน B ยังเสี่ยง เนื่องจากว่ามีพื้นที่มีเสาหักทับลงอยู่ ขณะนี้จะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปให้ถึงโซน A ด้วย เพื่อเปิดโพรงให้คนเข้าไปได้ด้วย โดยจะมีการทำแบบนี้ไปสักระยะเมื่อถึงจุดหนึ่งจะให้คนเข้าไปค้นหาต่อสลับกันไป

ส่วนโอกาสที่จะพังถล่มซ้ำถ้าขุดไม่เป็น และไม่มีความชำนาญ เช่น ดึงจากข้างล่างออกก่อน ข้างบนก็จะถล่มทันที ดังนั้นเป็นไปได้หมด หากรื้อไม่เป็นหรือไม่ถูกวิธี เพราะฉะนั้นเราต้องประเมินเรื่องความลาดชันตลอดเวลาของซากอาคาร หากไปดึงจุดไม่ถูกต้องจะไปกระตุกทั้งหมดให้ถล่มลงมา แต่หากใช้วิธีขั้นบันไดที่ทำอยู่โอกาสที่จะถล่มซ้ำเป็นไปได้ยาก และจะสังเกตุได้ว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้คีบเอาเศษปูนจากด้านบนออกก่อน แต่มีการกำกับและดูแลเรื่องของการดึงชิ้นส่วนออกอยู่ตลอดเวลา


หากประเมินความยากง่ายกรณีที่ใกล้เคียงกัน ปี2557 เคยเกิดเหตุอาคารถล่มอยู่แค่ 5-6 ชั้น และครั้งนั้นก็มีผู้รอดชีวิตอยู่ที่บริเวณปล่องลิฟท์กับตัวพื้น โดยคนอื่นเสียชีวิตหมดแต่ผู้รอด เกือบจะโดนทับเพียงแค่ 15 เซนติเมตร ใช้เวลากู้ 25 ชั่วโมง ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยคาดหวังว่าจะมีผู้รอดดชีวิตในลักษณะเดียวกัน

ส่วนระยะเวลาในการทำภารกิจ รวมถึงการรื้อถอน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ อยากให้ประเมินเป็นวันต่อวัน ซึ่งตนเองก็ยอมรับคำวิจารณ์ แต่ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ที่ทำภารกิจทุกหน่วยต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพื่อต่อสู่หวังว่าจะช่วยผู้รอดชีวิตออกมาได้ โดยเชื่อว่าหากมีผู้รอดชีวิตเพียงแค่คนเดียวก็จะทำให้กู้ภัยทั้งหมดดีใจ

อย่างไรก็ตาม ทีมกู้ภัยกองกำลังผสม ทั้งไทยและต่างชาติเข้าค้นหาใต้อาคารโซน C พบบัตรประจำตัวพนักงาน กระเป๋า และรองเท้า คาดว่าเป็นของผู้ประสบภัยที่สูญหายในพื้นที่บริเวณดังกล่าว แต่ยังไม่พบผู้สูญหายในบริเวณดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เครื่องจักรหนักกำลังทำงาน ส่วนทีมกู้ภัยประชุมวางแผนใหม่อีกรอบ .419 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ได้เบาะแสเพิ่ม โจร 30 วิ ล็อกเป้าชิงทอง 1.6 ล้าน

เหตุคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนปลอม ชิงทองมูลค่า 1.6 ล้าน กลางห้างอุดรฯ ชุดสืบยังเร่งแกะรอยล่า ยืนยันได้วงจรปิดเส้นทางมาชิงทองและเส้นทางหนีแล้ว มั่นใจคนร้ายล็อกเป้ามาชิงทองร้านนี้ร้านเดียว

สส.ปชน.โต้ “ทักษิณ” ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก

สส.เหนือ พรรคประชาชน โต้ “ทักษิณ” หลังซัด “เท้ง” สึ่งตึง “พุธิตา” ย้อน ตลกดี เป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก ลั่นดิสเครดิตแบบนี้ไม่ได้อะไร ไล่ไปทำหน้าที่รัฐบาลให้ดี เห็นมากี่ทีขอ สส.คืน

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ เขต 8

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8 หลัง “กล้าธรรม” ชิงประกาศชัยชนะ ผิดหวังภาคใต้ซื้อเสียงโจ๋งครึ่ม หวังประชาชนยังเทใจให้ชนะเลือกตั้งทั่วไป

ข่าวแนะนำ

น้ำทะลักแม่สายคลี่คลาย ชาวบ้านหวั่นซ้ำรอยท่วมใหญ่

ปภ.เชียงราย แจ้งสถานการณ์น้ำท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย คลี่คลายแล้ว หลังฝนตกหนักบริเวณรัฐฉานของเมียนมา ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่สาย ขณะที่ชาวบ้านผวา หวั่นซ้ำรอยวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ปีที่ผ่านมา

แจ้งข้อหาโชเฟอร์แท็กซี่ขวางรถพยาบาล ทำผู้ป่วยฉุกเฉินเสียชีวิต

แท็กซี่ป้ายเขียวขวางรถพยาบาล เปิดไซเรนขอทางแต่ไม่สนใจ ทำผู้ป่วยฉุกเฉินเสียชีวิตคารถ ล่าสุดตำรวจเรียกโชเฟอร์แท็กซี่แจ้งข้อหาแล้ว

ต้นน้ำฝนตกหนัก แม่น้ำสายเอ่อท่วมหลายชุมชน

ต้นน้ำฝนตกหนัก แม่น้ำสายเอ่อท่วมหลายใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชาวบ้านต่างรีบเก็บของขึ้นที่สูง ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลง

รื้อซากตึกสตง.

รื้อซาก สตง.ถึงชั้นใต้ดินแล้วบางส่วน-พบผู้สูญหายอีก 1 ร่าง

เจ้าหน้าที่ลดความสูงซากตึก สตง. ถึงชั้น 1 แล้ว และลงไปถึงชั้นใต้ดินได้บางส่วน โดยวันนี้จะเสริมรถหัวเจาะกระแทกเข้ามาเพิ่ม ขณะที่เมื่อคืนพบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง ยืนยันจะทำงานให้เร็วที่สุด เพื่อคืนร่างผู้สูญหายทั้งหมดให้ญาติ