เครื่องจักรหนักเดินหน้ารื้อถอนเต็มกำลัง ส่งทีมกู้ภัยค้นหาผู้สูญหาย

2 เม.ย.- เครื่องจักรหนักเดินหน้าเต็มกำลัง “หยิบ ยก รื้อ” แผ่นปูน-โครงเหล็ก หลังยังไม่มีสัญญาณพบผู้สูญหายเพิ่ม ด้านนายกสภาวิศวกรเผยเจ้าหน้าที่เร่งขุดโพรง 3 โซนหลัก พร้อมส่งทีมกู้ภัยฯ ค้นหาผู้สูญหาย หวังพบผู้รอดชีวิต


ความคืบหน้าของปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารในโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ จตุจักร ถล่ม ขณะแผ่นดินไหว เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเสียงสัญญาณแตรลมดังขึ้น 3 ครั้ง เครื่องจักรทุกชนิดหยุดทำงาน เนื่องจากมีรายงานพบสัญญาณชีพ บริเวณกองซากอาคาร สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โซน D ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งไทยและนานาชาติได้เข้าพื้นที่สำรวจพร้อมกับนำสุนัขดมกลิ่นตรวจหาสัญญาณชีพผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง แต่ปรากฏว่าสัญญาณที่พบอ่อนมาก จากนั้นได้มีการส่งสัญญาณ เครื่องจักรหนักทุกชนิดกลับมาเดินเครื่องทำงานอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง เป็นความหมายที่รู้กันว่ายังไม่มีการพบผู้ประสบภัยที่สูญหายเพิ่ม และเสียงเครื่องจักร รวมถึงฝุ่นกลับมาคละคลุ้งกระจายเต็มพื้นที่ ท่ามกลางความหวังของญาติทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทั้งสัญชาติเมียนมาและกัมพูชา ต่างมายืนรอด้วยใจที่จะจดจ่ออย่างมีความหวังว่าคนในครอบครัว และญาติของพวกเขาจะยังคงรอดชีวิต

โดยเวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นำรถน้ำฉีดพรมน้ำขึ้นไปบริเวณกองซากอาคารที่ถล่ม เพื่อเป็นการลดฝุ่นโดยไม่กระทบกับตัวโครงสร้าง ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญได้มีการประเมินแล้ว


ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร เปิดเผยว่า การใช้เครื่องมือหนักดึงรั้งไว้เพื่อให้คนเข้าไปหาข้างใน เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นหากไม่เจอก็จะถอนกำลังและจะใช้เครื่องจักรหนักทำงานต่อเพื่อหาโพรง เพราะโอกาสที่ผู้ประสบภัยจะรอดชีวิตจะอยู่ในโพรง แม้จะเลยเวลามาแล้วแต่พยายามทำคู่ขนานกันไป เพราะหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ที่จะช่วยชีวิตเขาได้ จึงจะทำในลักษณะนี้สลับกันไป โดยผู้รอดชีวิตอาจจะอยู่ตามโพรงใหญ่ จุดพัก ช่องบันได เท่าที่ค้นหาดูแล้วมีโอกาสที่จะมีอากาศหรือออกซิเจนอยู่ เพราะเมื่อขุดเข้าไปถึงโพรงพบว่าภายในโล่ง แต่ไม่สามารถเอาตัวคนลอดเข้าไปได้จะต้องใช้กล้องลงไปส่องดู จึงมีโอกาสที่จะมีอากาศไหลเข้าไป หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์อยู่ตรงนั้น ขณะเดียวกันได้พยายามลดน้ำหนักบริเวณโซน C และ D เพื่อจะนำของหนักๆ ออก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ กล่าวว่า คนส่วนใหญ่หากจะหนี จะหนีไปทางบันไดและปล่องลิฟท์ เมื่อมาถึงจุดหนึ่งจะมีสิ่งมากีดขวาง หากวิ่งหนีออกมาไม่ได้บางส่วนก็อาจจะหลบอยู่ที่ลานจอดรถใต้ดิน อุปสรรคช่วงแรกจะเห็นว่าพื้นทับกันเป็นชั้นในลักษณะแพนเค้ก พื้นที่ทับกันเป็นชั้นทำให้ยากต่อการที่จะทะลวงให้เป็นรูแล้วลงไปถึงด้านล่างและยากต่อการดึงออกทั้งแผงเนื่องจากยาวมาก หากจะยกออกทั้งแผงจะต้องเคลียร์วัสดุออกก่อน โดยเฉพาะเสาที่ล้มลงมาถูกโยงกันด้วยเหล็ก สันนิษฐานว่าอาจเป็นรอยต่อระหว่างพื้นกับเสา เมื่ออาคารล้มลงมาก็ต้องมีเหล็กผูกฉะนั้นจะต้องมีการตัดเหล็กก่อน หากจะยกพื้นชั้นบนออกก็จะทำให้ติดเสา จะต้องดึงตัวที่เป็นเสาออกก่อน จากนั้นจะต้องปรับระดับความสูงที่อยู่ด้านบนให้ใกล้เคียงกันเพื่อปรับสมดุลไม่ให้ไหลลงมาเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับทีมกู้ภัย โดยจะทำเป็นขั้นบันไดไล่เลียงขึ้นไป ได้เริ่มกระบวนการไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ได้ใช้เครื่องมือหนักในโซน C และ D ส่วนโซน B ยังเสี่ยง เนื่องจากว่ามีพื้นที่มีเสาหักทับลงอยู่ ขณะนี้จะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปให้ถึงโซน A ด้วย เพื่อเปิดโพรงให้คนเข้าไปได้ด้วย โดยจะมีการทำแบบนี้ไปสักระยะเมื่อถึงจุดหนึ่งจะให้คนเข้าไปค้นหาต่อสลับกันไป

ส่วนโอกาสที่จะพังถล่มซ้ำถ้าขุดไม่เป็น และไม่มีความชำนาญ เช่น ดึงจากข้างล่างออกก่อน ข้างบนก็จะถล่มทันที ดังนั้นเป็นไปได้หมด หากรื้อไม่เป็นหรือไม่ถูกวิธี เพราะฉะนั้นเราต้องประเมินเรื่องความลาดชันตลอดเวลาของซากอาคาร หากไปดึงจุดไม่ถูกต้องจะไปกระตุกทั้งหมดให้ถล่มลงมา แต่หากใช้วิธีขั้นบันไดที่ทำอยู่โอกาสที่จะถล่มซ้ำเป็นไปได้ยาก และจะสังเกตุได้ว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้คีบเอาเศษปูนจากด้านบนออกก่อน แต่มีการกำกับและดูแลเรื่องของการดึงชิ้นส่วนออกอยู่ตลอดเวลา


หากประเมินความยากง่ายกรณีที่ใกล้เคียงกัน ปี2557 เคยเกิดเหตุอาคารถล่มอยู่แค่ 5-6 ชั้น และครั้งนั้นก็มีผู้รอดชีวิตอยู่ที่บริเวณปล่องลิฟท์กับตัวพื้น โดยคนอื่นเสียชีวิตหมดแต่ผู้รอด เกือบจะโดนทับเพียงแค่ 15 เซนติเมตร ใช้เวลากู้ 25 ชั่วโมง ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยคาดหวังว่าจะมีผู้รอดดชีวิตในลักษณะเดียวกัน

ส่วนระยะเวลาในการทำภารกิจ รวมถึงการรื้อถอน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ อยากให้ประเมินเป็นวันต่อวัน ซึ่งตนเองก็ยอมรับคำวิจารณ์ แต่ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ที่ทำภารกิจทุกหน่วยต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพื่อต่อสู่หวังว่าจะช่วยผู้รอดชีวิตออกมาได้ โดยเชื่อว่าหากมีผู้รอดชีวิตเพียงแค่คนเดียวก็จะทำให้กู้ภัยทั้งหมดดีใจ

อย่างไรก็ตาม ทีมกู้ภัยกองกำลังผสม ทั้งไทยและต่างชาติเข้าค้นหาใต้อาคารโซน C พบบัตรประจำตัวพนักงาน กระเป๋า และรองเท้า คาดว่าเป็นของผู้ประสบภัยที่สูญหายในพื้นที่บริเวณดังกล่าว แต่ยังไม่พบผู้สูญหายในบริเวณดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เครื่องจักรหนักกำลังทำงาน ส่วนทีมกู้ภัยประชุมวางแผนใหม่อีกรอบ .419 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]