กทม. 17 ก.พ.- นายกฯ ห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ กำชับดูแลระมัดระวังป้องกันตนเองระหว่างปฏิบัติหน้าที่ หลังพบบุคลากรทางการแพทย์ติดโควิด-19 กว่า 100 คน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝากความห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ หลังพบเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ติดโควิด-19 ถึง 156 คน สูงที่สุดตั้งแต่มีการระบาดมา จึงขอให้บุคลาการทางการแพทย์ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ระมัดระวังป้องกันตนเองให้ดีระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ขอให้ตระหนักตลอดเวลาว่า แพทย์และบุคลการด้านสาธารณสุข เป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทยและดูแลรักษาประชาชน นอกจากนี้ ยังฝากเชิญชวนประชาชนเร่งเข้ารับบริการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์และเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 และ 4 เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อโควิดและสามารถลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตได้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับกระทรวงสาธารณสุขและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอีกรอบ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดในกลุ่มชุมชนและโรงเรียน ย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขขั้นสูงสุด การฉีดวัคซีนเด็กนักเรียนทุกวัย และการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมได้มากที่สุด จึงมีความสำคัญ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดลงได้ด้วย นายกรัฐมนตรี ยังย้ำให้ติดตามกระแสข่าวการพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ผสมระหว่างเดลตาและโอไมครอน หรือ ‘เดลตาครอน’ รายแรกของโลกที่อังกฤษ แม้ยังไม่ทราบความรุนแรงจะมากกว่าเดิมหรือไม่ แต่ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมให้ทันกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยเชื่อมั่นระบบและมาตรการด้านสาธารณสุขของไทยมีประสิทธิภาพและมีความเข้มแข็งสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดได้.-สำนักข่าวไทย.
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝากความห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ หลังพบเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ติดโควิด-19 ถึง 156 คน สูงที่สุดตั้งแต่มีการระบาดมา จึงขอให้บุคลาการทางการแพทย์ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ระมัดระวังป้องกันตนเองให้ดีระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ขอให้ตระหนักตลอดเวลาว่า แพทย์และบุคลการด้านสาธารณสุข เป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทยและดูแลรักษาประชาชน นอกจากนี้ ยังฝากเชิญชวนประชาชนเร่งเข้ารับบริการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์และเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 และ 4 เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อโควิดและสามารถลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตได้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับกระทรวงสาธารณสุขและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอีกรอบ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดในกลุ่มชุมชนและโรงเรียน ย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขขั้นสูงสุด การฉีดวัคซีนเด็กนักเรียนทุกวัย และการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมได้มากที่สุด จึงมีความสำคัญ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดลงได้ด้วย นายกรัฐมนตรี ยังย้ำให้ติดตามกระแสข่าวการพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ผสมระหว่างเดลตาและโอไมครอน หรือ ‘เดลตาครอน’ รายแรกของโลกที่อังกฤษ แม้ยังไม่ทราบความรุนแรงจะมากกว่าเดิมหรือไม่ แต่ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมให้ทันกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยเชื่อมั่นระบบและมาตรการด้านสาธารณสุขของไทยมีประสิทธิภาพและมีความเข้มแข็งสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดได้.-สำนักข่าวไทย.