ระยอง 14 ก.พ. – ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรวจสถานการณ์เหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อใต้ทะเลบริเวณมาบตาพุด จ. ระยองเป็นครั้งที่ 2 โดยพบเพียงคราบน้ำมันในลักษณะฟิล์มใสบางๆ ไม่มาก ห่างจากฝั่งประมาณ 5-6 กิโลเมตร สั่งทุกหน่วยติดตามผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อเรียกค่าเสียหายจากบริษัท SPRC
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจคราบน้ำมันจากเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลซึ่งพบเพียงคราบน้ำมันในลักษณะฟิล์มใสบางๆ เป็นปริมาณไม่มาก โดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 รายงานว่า คราบน้ำมันห่างจากฝั่งประมาณ 5-6 กิโลเมตร ซึ่งการรั่วไหลครั้งที่ 2 นี้ ไม่พบคราบน้ำมันดิบสีน้ำตาล ประกอบกับการคาดการณ์ด้วยแบบจำลอง Oil Map ของกรมควบคุมมลพิษซึ่งคำนวณจากทิศทางและความเร็วของกระแสคลื่นลมขณะนี้คาดว่า คราบน้ำมันที่พบจะไม่ขึ้นชายฝั่ง แต่กำชับทุกหน่วยไม่ให้วางใจ ยังต้องดำเนินการอย่างสุดกำลังความสามารถเพื่อป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันที่รั่วไหลซ้ำในครั้งนี้ เข้าถึงแหล่งทรัพยากรที่สำคัญเช่น หญ้าทะเลและปะการังน้ำตื้น พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด และชายฝั่งต่างๆ อย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้สั่งการให้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) ร่วมกันเฝ้าติดตามสถานการณ์คุณภาพน้ำทะเลและผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน รวมทั้งเพื่อประเมินความเสียหายทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อเรียกค่าชดเชยความเสียหายจากบริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน (SPRC) ต่อไป.-สำนักข่าวไทย