กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – นายกสมาคมค้าทองคำ แนะร้านทองรอบคอบ หากผู้ซื้อจ่ายด้วยเคลียริ่งเช็คต้องรอเงินเข้าบัญชีจริง อย่ารีบให้ทอง ยิ่งซื้อขายมูลค่าสูงต้องขอบัตรประชาชน และออกใบกำกับภาษี หาก ปปง.เรียกตรวจสอบ
ช่วงนี้มีกรณีเจ้าของร้านทองในหลายจังหวัดถูกมิจฉาชีพใช้เคลียริ่งเช็คหลอกซื้อทองรูปพรรณ สุดท้ายเช็คเด้ง เจ้าของร้านเสียทั้งทอง แถมไม่ได้เงิน ส่วนคนร้ายหลบหนีลอยนวล ล่าสุดเกิดขึ้นที่จังหวัดหนองคาย ได้ทองไปหนัก 100 บาท มูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท แล้วยังพบแก๊งเดียวกันนี้ไปก่อเหตุที่ จ.บุรีรัมย์ แต่เจ้าของร้านไหวตัวทัน เลยไม่เสียทอง
เรื่องนี้ นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ บอกว่าเรื่องราวมิจฉาชีพหลอกซื้อทองคำจากร้านทอง โดยใช้ช่องว่างของขั้นตอนการเคลียร์ริ่งเช็ค มีมานานหลายปีแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ กรณีที่เกิดขึ้นที่ จ.หนองคาย อาจเป็นเพราะเจ้าของร้านทองอาจขาดความรู้และประสบการณ์ ดังนั้น บรรดาร้านทองจำเป็น ต้องมีความระมัดระวัง รอบคอบ หากมีการซื้อทองด้วยเช็ค ไม่ว่าจะเป็นเช็คเงินสด เช็คของขวัญ แม้จะมีตัวเลขเข้าบัญชีจริง แต่ก็ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเงินต้องเข้าบัญชีมาด้วย โดยเฉพาะหากมีการซื้อขายในมูลค่าที่สูง ยิ่งต้องระมัดระวังรอบคอบ นอกจากนี้การซื้อขายทองที่มีมูลค่าสูงต้องขอบัตรประจำตัวประชาชนจากผู้ซื้อ และออกใบกำกับภาษีไว้เป็นหลักฐาน หากมีการเรียกตรวจสอบจาก ปปง.
ในส่วนของสมาคมค้าทองคำ ที่มีร้านทองเป็นสมาชิกกว่า 2,000 ร้านทั่วประเทศ พบกรณีดังกล่าวน้อย เนื่องจากทางสมาคมได้มีการแจ้งเตือนถึงกลโกงมิจฉาชีพอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้ มักเกิดขึ้นในร้านทองต่างจังหวัดที่ขาดประสบการณ์ แต่ใน กทม. พบน้อย
นายจิตติ ยังพูดถึงกลโกงอีกรูปแบบของมิจฉาชีพ ที่ใช้วิธีการปลอมเช็ค โดยมีการปลอมทั้งชื่อธนาคาร และเลขที่เช็ค เหมือนกับของจริงทุกประการ กรณีนี้มิจฉาชีพนำแคชเชียร์เช็คไปซื้อทอง ร้านทองโทรไปสอบถามธนาคาร ทางธนาคารก็ยืนยันว่ามีเช็คเลขที่ดังกล่าวจริง แต่เมื่อนำไปขึ้นเงิน ธนาคารตรวจสอบปรากฏว่าเป็นเช็คปลอม ซึ่งเคยเจอเช็คเหมือนกัน 15 ใบ ที่มีเลขที่เช็คเดียวกัน แต่ปรากฏว่าเป็นเช็คปลอม 14 ใบ เป็นเช็คจริง เพียงใบเดียวท่านั้น ดังนั้น หากได้รับเป็นเช็คต้องนำเช็คไปให้เจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบยืนยัน ไม่ใช่เพียงแค่การโทรสอบถามเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย