กรุงเทพ13พ.ย.-รัฐบาลลุยจัดระเบียบรถบรรทุกน้ำหนักเกินและรถตู้โดยสารสาธารณะ ชี้เพื่อป้องกันถนนเสียหาย ลดปัญหาจราจรและอุบัติเหตุ วอนผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ พร้อมขอประชาชนร่วมแจ้งเบาะแส
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าจัดระเบียบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน และรถตู้โดยสารสาธารณะ ให้เกิดความเรียบร้อย โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับรัฐและคนส่วนใหญ่ ทั้งการป้องกันถนนชำรุดเสียหาย การลดปัญหาจราจรติดขัด และเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ กระทรวงคมนาคมบูรณาการกับจังหวัด และตำรวจทหารในพื้นที่ เข้มงวดตรวจตรารถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เช่น รถบรรทุก 10 ล้อ ต้องบรรทุกน้ำหนักไม่เกิน 25 ตัน รถบรรทุกพ่วง ไม่เกิน 50.5 ตัน เพราะที่ผ่านมายังมีรถบรรทุกบางส่วนฝ่าฝืนกฎหมาย ส่งผลให้ถนนชำรุดเสียหาย และรัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการซ่อมแซมแต่ละปีเป็นจำนวนมาก
พลโท สรรเสริญ กล่าวอีกว่าสิ่งของที่บรรทุกเกิน เช่น สินค้าเกษตรและสินค้าก่อสร้าง อิฐ หิน ปูน ทราย และไม่มีผ้าคลุม ตกหล่นบนพื้นถนน เป็นอันตรายต่อรถคันอื่น ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้ขอความร่วมมือให้รถบรรทุกชั่งน้ำหนักที่ด่านชั่งถาวรและด่านชั่งเคลื่อนที่อย่างเข้มงวด พร้อมทั้งเตรียมปรับถนนยางมะตอยบริเวณสี่แยกต่าง ๆ ทั่วประเทศให้เป็นถนนคอนกรีต ลดปัญหาถนนชำรุดจากการเบรกของรถที่มีน้ำหนักมาก
พลโท สรรเสริญ กล่าวถึงการเรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 เอาผิดกับผู้ประกอบการที่จงใจฝ่าฝืนหรือกระทำผิดซ้ำว่า นายกรัฐมนตรีระบุว่า จะต้องคิดให้รอบคอบ หากบังคับใช้กฎหมายปกติได้อย่างจริงจัง และผู้ประกอบการมีจิตสำนึก ไม่คำนึงถึงแต่กำไรของตนแต่เพียงอย่างเดียวแล้วไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ
พลโท สรรเสริญ ยังหล่าวถีงความคืบหน้าในการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ กรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กม. โดยย้ายจุดจอดจากบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังสถานีขนส่งจตุจักร ปิ่นเกล้า และเอกมัย เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดในตัวเมือง และลดอุบัติเหตุลงได้เพราะรถได้รับการตรวจสอบมาตรฐาน ณ สถานีขนส่ง รวมทั้งขจัดกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่คุมวินรถตู้ได้ และขณะนี้พบว่าประชาชนเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ซึ่ง ได้มีการจัดรถ Shuttle bus ให้บริการรับส่งจากสถานีขนส่งทั้ง 3 แห่งไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอย่างเพียงพอ พร้อมจัดตั้งศูนย์บริการร่วมใน 4 จุดดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในทุกด้าน อย่างไรก็ตามรัฐบาลเข้าใจดีถึงปัญหาค่าใช้จ่ายของทั้งผู้ประกอบการและผู้โดยสาร โดยจะควบคุมอัตราค่าโดยสารให้เกิดความเป็นธรรม และงดเว้นค่าจอดรถ ณ สถานีขนส่งเป็นเวลา 6 เดือนแก่ผู้ประกอบการ รวมทั้งกำหนดมาตรการอื่น ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงส่วนรวมด้วย และสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติข้อกำหนดดังกล่าว กระทรวงคมนาคมจะดำเนินการลงโทษสูงสุดตามกฎหมายทุกกรณี และหากพบการกระทำผิดซ้ำซาก จะพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการเดินรถ โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง หรือร้องเรียนแจ้งเบาะแสปัญหาการใช้บริการรถตู้โดยสาร และพบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน โทร.1584 ตลอด 24 ชม.-สำนักข่าวไทย