สหรัฐ 6 ม.ค. – ว่าที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ประกาศจะเรียกเก็บภาษีจำนวนมหาศาล จากโตโยต้า หากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก จากญี่ปุ่น สร้างโรงงานแห่งใหม่ ในเม็กซิโก
ทรัมป์ ทวีตข้อความ ระบุว่า โตโยต้า เตรียมสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ ที่รัฐ บาฮา ในเม็กซิโก เพื่อผลิตรถยนต์โคโรลา เข้ามาขายในสหรัฐ ขอให้หยุด ความคิดนี้เสีย และหันมาสร้างโรงงานในสหรัฐ ไม่เช่นนั้น โตโยต้าจะเจอ กำแพงภาษีมหาศาล หากส่งรถยนต์ เข้ามาขายในสหรัฐ ขณะที่โตโยต้า ออกแถลงการณ์ว่า มีความยินดี และพร้อมทำงานร่วมกับ รัฐบาลของนายทรัมป์ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภค ในสหรัฐต่อไป ทั้งนี้โตโยต้า เริ่มโครงการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 35,000 ล. ที่เมือง กัวนา ฮัวโต ในรัฐ บาฮา ซึ่งมีพรมแดน ติดกับภาคใต้ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยวางแผน ให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ รุ่นโคโรลา ปีละ 200,000 คัน และเป็นโรงงานประกอบชิ้นส่วน รถบรรทุก อีกปีละ 100,000 คัน เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ในปี 2562
ปัจจุบันโตโยต้า มีโรงงานอยู่ในสหรัฐ 10 แห่ง และมีพนักงานเฉพาะ ในภาคการผลิตราว 136,000คน โตโยต้า ถือเป็นเป้าโจมตี รายล่าสุดของทรัมป์ ที่มีต่อบริษัทชั้นนำ ในวงการยานยนต์โลก ต่อจาก ฟอร์ด มอร์เตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ รายใหญ่ อันดับ 2 ของสหรัฐ ที่ประกาศ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์นี้ ยุติโครงการก่อสร้างโรงงาน ผลิตรถยนต์แห่งใหม่ ในเม็กซิโกมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 56,000ล้านบาท
ส่วน เจนเนอรัล มอเตอร์ หรือ จีเอ็ม ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐยังคงสงวนท่าที ต่อคำขู่ขึ้นภาษี ของนายทรัมป์ หากจีเอ็มเดินหน้า โครงการก่อสร้างโรงงานในเม็กซิโก สำหรับผลิตรถยนต์ เชฟโรเล็ต ขณะเดียวกัน ผู้บริหารบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ ของญี่ปุ่น ระบุว่า ญี่ปุ่น มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหรัฐมาก โดยสร้างงาน ให้ชาวอเมริกัน มากถึง 1,500,000 ตำแหน่ง โดยโตโยต้า ลงทุนมากที่สุด ด้วยเม็ดเงินสูงกว่า 776,500 ล้านบาท โดยมีโรงงาน 10 แห่ง พร้อมพนักงาน ฝ่ายขาย 1,500 คน และพนักงานในสายการผลิตอีก 136,000 คน และผลิตรถยนต์จำหน่ายในสหรัฐ มากกว่า 25 ล้านคัน ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา โตโยต้า ระบุว่า บริษัทดำเนินธุระกิจในสหรัฐ มานานถึง 60 ปี และจะไม่ทำให้ การเปิดโรงงานใหม่ในเม็กซิโก กระทบต่อการผลิต และการจ้างานในสหรัฐโดยเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย