พัทยา 19 ก.พ. – คลังเดินหน้าจัดเก็บภาษีลาภลอยริมทางด่วน รถไฟฟ้า ยอมรับศึกษาลดภาษีนำเข้ารถยนต์ แต่ยังไม่สรุป ยืนยันดูแลทั้งผู้ผลิตในประเทศและผู้นำเข้า
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เพื่อขยายฐานภาษีให้กว้างขึ้นเตรียมเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาจัดเก็บภาษีลาภลอย (Windfall Gain Tax) บริเวณโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เพื่อเสนอ ครม.พิจารณาในขั้นต่อไป เนื่องจากเห็นว่าหลายประเทศ เช่น ยุโรป สหรัฐ ฮ่องกง จัดเก็บภาษีดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่าจัดเก็บเฉพาะทรัพย์สินบริเวณโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยไม่มีผลย้อนหลังไปยังโครงการลงทุนที่ผ่านมา โดยร่าง พ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ. …หรือ ภาษีลาภลอยใช้แนวคิดจัดเก็บภาษีจากผู้ที่ได้รับประโยชน์จากมูลค่าที่ดินและห้องชุดมีราคาเพิ่มขึ้นจากโครงการสาธารณูปโภคของรัฐ หลังจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือห้องชุดขายและมีรายได้จากส่วนต่างมูลค่าที่ดินหรือทรัพย์สิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสาระสำคัญของภาษีลาภลอยเน้นการขายทรัพย์สินมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ห้องชุดรอจำหน่าย เน้นเฉพาะอสังหาริมทรัพย์บริเวณสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ในรัศมี 2.5 กิโลเมตรโดยรอบสถานี หากเป็นท่าเรือ พื้นที่จัดเก็บรัศมี 5 กิโลเมตร ส่วนทางด่วนพิเศษ รัศมี 2.5 กิโลเมตร รอบทางขึ้นและทางลงทางออก ไม่ได้จัดเก็บจากอสังหาริมทรัพย์ริมทาง เพราะเป็นทางระบบปิด รวมทั้งที่ดินใกล้สนามบิน รัศมี 5 กิโลเมตร จากแนวเขตห้ามก่อสร้างของสนามบิน โดยยกเว้นจัดเก็บภาษีกรณีที่ดินที่อยู่อาศัยและที่ดินทำเกษตรกรรม กำหนดเพดานอัตราภาษี ไม่เกินร้อยละ 5 ของฐานภาษี โดยคำนวณส่วนต่างของมูลค่าที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์มีราคาเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ก่อนการก่อสร้างถึงวันซื้อขายเมื่อโครงการพัฒนาเสร็จ หากไม่มีการซื้อขายจะไม่จัดเก็บภาษี รายละเอียดทั้งหมดต้องรอ ครม.พิจารณา
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษาทบทวนโครงสร้างภาษีนำเข้ารถยนต์ จากเดิมเคยกำหนดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์แบ่งเป็น 2 อัตรา คือ ร้อยละ 42 และร้อยละ 65 และปรับมาเป็นอัตราเดียวร้อยละ 80 และใช้อัตราเดียวตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา การศึกษาทบทวนโครงสร้างภาษีศุลกากรนำเข้า เพื่อพิจารณาข้อดีข้อเสียหลายด้าน ขณะที่ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระได้เสนอให้ปรับลดอัตรา ส่วนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ผู้ผลิตรถยนต์คัดค้านการลดภาษี จึงต้องนำความเห็นทุกฝ่ายมาศึกษาอย่างรอบด้าน หากปรับลดลงจะสำแดงภาษีต่ำลงหรือไม่ ราคาขายปลีกเป็นอย่างไรบ้าง ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด
ส่วนกรณีรถหรูลัมโบกินี ปอร์เช่ เฟอรารี่ เซอราติ อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่ออายัดไว้ในคลังทัณฑ์บนสินค้า 900 คันนั้น ขณะนี้กรมศุลกากรขอให้แจ้งใบขนส่งออกจากต่างประเทศ ใบค้ำประกันการส่งออก เพื่อนำมาพิจารณากับราคาตลาด พิสูจน์ดูว่าสำแดงสินค้าต่ำกว่าราคาเป็นจริงหรือไม่ ขณะนี้ทยอยปล่อยรถหรูให้กับผู้นำเข้า เมื่อพิจารณาเอกสารจากต่างประเทศแล้ว เพื่อต้องการประเมินว่าได้สำแดงภาษีนำเข้าต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่
สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเฟส 2 นั้น นายพรชัย กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 2 ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 11.4 ล้านคน เปิดให้ชาวบ้านลงทะเบียนพัฒนาอาชีพตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์มีจำนวน 3.6 ล้านคน จากเป้าหมาย 5 ล้านคน ต้องการเน้นกลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี เพื่อดึงมาพัฒาอาชีพให้มีรายได้สูงขึ้น ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการลงทะเบียนรอบ 2 แต่เพื่อต้องการพัฒนาอาชีพเสริมความรู้ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการ และเมื่อเริ่มพัฒนาอบรมแล้วจะเริ่มจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการ ไม่ใช่ลงทะเบียนแล้วได้เงินทันที คาดว่าเริ่มจ่ายเงิน 100 บาท และ 200 บาทได้ในเดือนมีนาคม โดยวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ปลัดกระทรวงการคลังจะประชุมติดตามความคืบหน้าเตรียมพร้อมส่งเจ้าหน้าที่หมอประชารัฐสุขใจลงพื้นที่แนะนำชาวบ้านลงทะเบียนพัฒนาอาชีพ รัฐมนตรีคลังได้ย้ำว่าต้องการให้เกิดการพัฒนา เติมความรู้ สร้างรายได้จริงกับชาวบ้าน ไม่ใช่อบรมเสร็จแล้วโครงการพับหายไปจะมีการติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด .-สำนักข่าวไทย
