คลังจ้องปรับจีดีพี หลังส่งออกอาการหนัก

ก.คลัง 27 มิ.ย. – คลังจ้องปรับจีดีพี ลดลงจากปัจจุบันร้อยละ 3.8  หลังส่งออกอาการหนัก เตรียมรับนโยบายรัฐบาลใหม่ เพื่อหาช่องทางกระตุ้นเศรษฐกิจ 


นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน โฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เดือนกรกฎาคมนี้ สศค.เตรียมปรับคาดการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทย ลดลงจากปัจจุบันร้อยละ 3.8 สอดคล้องกับหลายหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ เพราะยังเผชิญกับแนวโน้มการส่งออกชะลอตัว เพราะเศรษฐกิจไทยยังพึ่งพาการส่งออกถึงร้อยละ 77  ส่วนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อมี ครม.ใหม่เข้ามาทำงานคงต้องประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังร่วมกันทั้งกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่คลังยังคาดว่าการเติบโตยังดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะหลายโครงการจะขับเคลื่อนไปได้ และเศรษฐกิจไตรมาส 3-4 ปี 2561 มีฐานค่อนข้างต่ำ เพื่อหาช่องทางดูว่าจำเป็นจะต้องใช้เครื่องมืออะไร มาพยุงเศรษฐกิจบ้าง 

สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวร้อยละ 5 เพราะการบริโภคในประเทศยังขยายตัวระดับน่าพอใจ ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับลดลงมาอยู่ที่ 64.8  แม้ว่าการส่งออกติดลบร้อยละ 5.8  โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดจีนติดลบร้อยละ 7.2  ขณะที่การนำเข้าติดลบร้อยละ 0.6 สินค้าที่นำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ เชื้อเพลิง   


ด้านภาคเกษตรสามารถกลับมาขยายตัวได้ เพราะราคาสินค้าเกษตรหลายตัวปรับสูงขึ้น โดยดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวร้อยละ 0.6 จากหมวดพืชผลสำคัญที่ขยายตัวร้อยละ 1.1  และหมวดปศุสัตว์ขยายตัวร้อยละ 1.5 สินค้าสำคัญที่มีผลผลิตเพิ่ม คือ ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวสะท้อยจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 2.73 ล้านคน ชะลอลงร้อยละ 1  เป็นผลจากนักท่องเที่ยวจีนเป็นสำคัญ ทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมีมูลค่า 134,560 ล้านบาท  แต่หลังจากนี้คาดว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคมร้อยละ 1.1  ต่อปี ตามการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสด เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศเริ่มเดินหน้าโครงการลงทุน คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจครึ่งปีหลังขยับสูงขึ้นมากกว่าครึ่งปีแรก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต