สุพรรณบุรี 5 ก.พ.- เค้นสอบหนุ่มวัย 20 คดีฆ่าสาวยัดกล่องหมกป่าสุพรรณบุรี เจ้าตัวยอมรับก่อเหตุจริง มีสัมพันธ์ฉันชู้สาว แต่พ่อแม่ผู้ตายไม่รู้ หลังก่อเหตุหนีไปอยู่บ้านเมียที่กาฬสินธุ์ ป้าผู้ต้องหาเผยเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เล็ก เนื่องจากพ่อแม่หย่าร้าง ส่งเสียให้เรียน พอขึ้น ม.3 เริ่มยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พาไปบำบัด เชื่อหลานชายน่าจะเสพยาและไปก่อเหตุ ด้านเจ้าหน้าที่ พฐ.เก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่ห้องพักผู้ต้องหา พบกล่องพลาสติกสีเขียวซุกห้องน้ำร้าง ภายในกล่องพบชิ้นส่วนสายเสื้อชั้นในหล่นอยู่ 1 ชิ้น คาดอาจเป็นกล่องที่คนร้ายนำศพใส่ครั้งแรก แต่กล่องแตก จึงนำกล่องสีดำใบที่พบมาใส่และนำไปทิ้ง
ชุดสืบสวนฯ ควบคุมตัวนายธนกร (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี เดินทางกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี หลังจากหนีไปกบดานที่บ้านพักของภรรยา ภายในหมู่บ้านหนองมะงง ตำบลคำบง อำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์ และถูกแกะรอยควบคุมตัวได้สำเร็จ โดยนายธนกรฯ เดินทางกลับไปที่บ้านพักของภรรยาตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากก่อเหตุฆ่านางสาวสุมิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี หรือ “น้องเต็น” เสียชีวิต และนำศพยัดกล่องพลาสติกไปทิ้งในพงหญ้า หลังแคมป์คนงานแพลนต์ปูนในพื้นที่ตำบลศาลาขาว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี กระทั่งตำรวจขอศาลอนุมัติหมายจับ
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายธนกรฯ บอกว่ายอมรับว่าก่อเหตุจริง เพราะมีสัมพันธ์ฉันชู้สาว แต่พ่อแม่ผู้ตายไม่รู้ ส่วนในวันเกิดเหตุได้เข้าไปห้องผู้ตายและพูดคุยกัน ซึ่งผู้ตายต้องการให้รับเลี้ยงดูฉันสามีภรรยาและต้องการบอกให้บิดาของผู้ตายให้รับรู้ แต่ฝ่ายชายไม่อยากรับเลี้ยงดูเพราะมีลูกเมียอยู่แล้ว จึงเกิดปากเสียงกัน และนายธนกรได้ใช้มือบีบคอผู้ตาย และนำศพไปยัดใส่กล่องที่ห้องตัวเอง จากนั้นได้ให้เพื่อนที่เป็นชาวเมียนมาช่วยยกศพลงมาซุกซ่อนไว้ ก่อนหลบหนีมาอยู่กับภรรยา
พบกล่องปริศนา คาดเป็นกล่องใบแรกที่ยัดศพไม่ลง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยรายงานว่า หลังจากที่มีการนำตัวนายธนกรมาสอบปากคำ ปรากฏว่าชุดสืบสวนฯ ได้ควบคุมตัวอย่างแน่นหนาและไม่สามารถบันทึกภาพขณะอยู่ที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี แต่มีรายงานว่าตำรวจนำตัวเข้าห้องขัง และพบมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด และพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) เวลา 10.00 น. พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จะแถลงข่าวความคืบหน้าของคดีที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี
ต่อมาเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่ห้องพักของนายธนากร และนางสาวสุมิตาเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยพบกล่องพลาสติกสีเขียว ซุกในห้องน้ำร้างข้างบันไดทางขึ้นหอพัก เป็นกล่องพลาสติกขนาดใหญ่สีเขียว ยาวประมาณ 70 ซม. และสูงประมาณ 50 ซม. ซึ่งเป็นกล่องของ “น้องเต็น” ที่หายไป โดยพบว่ากล่องมีสภาพแตก และภายในกล่องพบเศษชิ้นส่วนของสายยกทรงหล่นอยู่ 1 ชิ้น คาดว่าอาจเป็นกล่องที่คนร้ายนำร่างยัดใส่ในทีแรกแต่กล่องแตก จึงนำกล่องสีดำใบที่พบมาใส่ศพและนำไปทิ้ง
เมียผู้ก่อเหตุรับไม่ได้ เชื่อผัวอารมณ์ร้อนฆ่าสาว
อีกด้านที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ไปที่บ้านพักของภรรยานายธนกร เป็นบ้านปูนชั้นเดียว มุงด้วยสังกะสีที่สร้างยังไม่เสร็จ และได้พบกับนางสาวปิยะพร (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ภรรยานายธนกร และลูกสาววัย 4 เดือน รวมถึงคนในครอบครัว
โดยภรรยาของนายธนกร บอกว่าสามีมีชื่อว่า “แป๊บ” เพิ่งจะอยู่กินฉันสามีภรรยาได้ 1 ปี ปัจจุบันมีลูกสาววัย 4 เดือน 1 คน ซึ่งสามีมีบ้านอยู่ในอำเภอสมเด็จ ก่อนเดินทางไปทำงานก่อสร้างที่สุพรรณบุรีได้ 5-6 เดือน ปกติสามีเป็นคนอารมณ์ร้อน ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางกลับมาบ้านเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ บอกเพียงว่าคิดถึงลูกแต่ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะทุก 2 เดือนจะกลับมาเยี่ยมบ้าน กระทั่งเมื่อวาน (4 ก.พ.) มีตำรวจมาตามจับตัวสามีถึงบ้าน จึงตกใจมาก และเชื่อว่าน่าจะมีการเสพยาเสพติดด้วย จึงไปก่อเหตุเช่นนั้น
หลังจากนั้นในช่วงบ่าย ปรากฏว่ามีญาติของนายธนากรเดินทางมาเยี่ยมและสอบถามถึงเหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงพบว่ามีเพื่อนบ้านมาคอยให้กำลังใจ โดยนางบัวผัน ยายของภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า ปกติหลานเขยจะเป็นคนเงียบๆ ไม่พูดจากับใคร แต่ขยับทำงาน และ 1-2 เดือนจะเดินทางกลับมาเยี่ยมลูกน้อย ยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ แต่หากรับสารภาพก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
เปิดปูมหลังมือฆ่าพบเป็นเด็กกำพร้า ติดเกม-ติดยา
เช่นเดียวกับนางประกาย อายุ 46 ปี ป้าของนายธนากร กล่าวว่า นายธนากรเป็นเด็กกำพร้า เนื่องจากพ่อแม่หย่าร้างจึงเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก มีความรักความผูกพันและส่งเสียเล่าเรียนเหมือนลูกในไส้ แต่พอเรียนชั้น ม.1-ม.2 ก็เริ่มติดเกม และพอขึ้น ม.3 เริ่มยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ซึ่งตนและญาติก็พยายามห้ามปราม และควบคุมความประพฤติอย่างเต็มที่แต่พลาดจนได้ เนื่องจากยาเสพติดระบาดมาก จนกระทั่งพาไปบำบัดรักษาและเริ่มห่างจากยาเสพติด ต่อมาเมื่อมาได้ภรรยาที่อำเภอห้วยผึ้ง จึงวางใจคิดว่าจะกลับตัวกลับใจได้ และไม่คิดว่าจะหันไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก เชื่อว่ากรณีดังกล่าวหลานชายน่าจะเสพยาและไปก่อเหตุ
ทั้งนี้ มีรายงานล่าสุดว่าผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ระบุสาเหตุการตายคือ เสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ อาจเกิดจากการขาดอากาศหายใจหรือได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับร่องรอยการถูกข่มขืน ซึ่งครอบครัวได้ติดต่อขอรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้วเมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา
สำหรับนายธนกร จะถูกดำเนินคดีฐานฆ่าผู้อื่น และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ และหากสอบสวนไปจนชัดเจนแล้วว่ามีเพื่อนชาวเมียนมาร่วมก่อเหตุยกศพลงมาซุกซ่อนไว้ก็จะถูกดำเนินคดีอีกคน.-สำนักข่าวไทย