โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน 4 ก.พ.- มูลนิธิเมาไม่ขับ พร้อมภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุ เสนอนายกฯ ให้วันที่ 21 ม.ค.ของทุกปี เป็นวันความปลอดภัยทางถนนแห่งชาติ ด้านพ่อหมอกระต่าย เปิดใจทั้งน้ำตา ขอให้เรื่องนี้ไม่สูญเปล่า
มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับสสส. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมเวทีสาธารณะ หมอกระต่ายต้อง ไม่ตายฟรี โดยมี
นพ.อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล บิดาของหมอกระต่าย เข้าร่วมด้วย โดยช่วงก่อนเสวนา นพ.อนิรุทธ์ ได้กล่าวบนเวทีเปิดใจ ว่าการสูญเสียหมอกระต่ายเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดของครอบครัว หมอกระต่ายมีความตั้งใจจะเป็นจักษุแพทย์ เป็นความหวังของครอบครัว โดยวันที่เกิดอุบัติเหตุ กว่าพ่อจะได้ทราบข่าวอุบัติเหตุของลูกสาวนานนับชั่วโมง และเรื่องที่ช็อกคือกว่าจะทราบรายละเอียดรู้ว่าลูกสาวไปที่รพ. ใช้เวลาและขั้นตอนกว่าทราบตัวบุคคลนานมาก ซึ่งจากที่เกิดอุบัติเหตุ จนทราบว่าหมอกระต่ายอยู่ที่รพ.ใดใช้เวลานานกว่าสองชั่วโมง ในใจคนเป็นพ่อแม่รู้สึกย่ำแย่มาก หลังเกิดเรื่อง ครอบครัวก็รู้สึกแย่ลงไปอีก จากภาพในสื่อที่ปรากฎกล้องคลิปหน้ารถที่ฉายวนซ้ำ เห็นช่วงอุบัติเหตุชัดเจน ครอบครัวทนดูไม่ได้ และแค่เพียงอีกก้าวเดียวลูกสาวก็จะเดินข้ามขึ้นไปบนเกาะกลางถนนได้แล้ว และภาพที่ปรากฎเห็นผู้ก่อเหตุขี่รถด้วยความเร็วมากโดยไม่สนใจว่าตรงนั้นมีทางม้าลาย จึงอยากให้ทุกฝ่ายอย่าปล่อยผ่าน ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน เพิ่มโทษผู้ขับขี่รถที่ชนคนบนทางม้าลาย รวมทั้งปรับปรุงทางข้ามให้ปลอดภัยมากกว่านี้ โดยตลอดเวลาที่พ่อของหมอกระต่ายกล่าวบนเวที ได้หยุดพูดและร้องไห้ออกมาตลอดช่วงการพูด
นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า ประเทศไทย ถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงเป็นอันดับ9 ของโลก แต่ละปีมีคนตายจากอุบัติเหตุเกือบสองหมื่นคน และไทยยังถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีถนนอันตรายที่สุดในโลก การขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยผู้อื่น โดยจากเหตุการณ์อุบัติที่สูญเสียหมอกระต่ายสังคมสูญเสียแพทย์อนาคตไกล เหตุการณ์นี้ต้องไม่สูญเปล่า และเพื่อเป็นการรำลึกถึงหมอกระต่าย พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล และต้องการให้เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดการเรียกร้องสิทธิในความปลอดภัยเมื่อต้องข้ามทางม้าลาย มูลนิธิเมาไม่ขับ ได้ทำหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลเสนอให้ กำหนดวันที่ 21 มกราคมของทุกปีซึ่งเป็นวันที่หมอกระต่ายเสียชีวิตจากการถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐละเมิดกฎแห่งความปลอดภัยขับขี่รถจักรยานยนต์ชนเสียชีวิตขณะข้ามทางม้าลาย เป็นวันหมอกระต่าย หรือวันความปลอดภัยทางถนนแห่งชาติ และขอให้มีการแก้ไขบทลงโทษผู้ขับขี่ที่ชนคนข้ามทางม้าลายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตให้มีบทลงโทษฐานขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยผู้อื่นแทนการขับขี่รถด้วยความประมาท
ด้าน พญ.ลลนา ก้องธรรินทร์ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า วันนี้ มาในนามของทั้งแพทย์ เพื่อนหมอกระต่าย และในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ต้องการออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไขปรับปรุงจากเหตุการณ์นี้โดยตนและเพื่อนๆแพทย์กำลังรวบรวมรายชื่อผ่านchange.org แคมเปญ ทางกระต่าย #rabbit crossing โดยหลังจากเปิดแคมเปญไปหนึ่งสัปดาห์ สามารถรวบรวมได้แล้ว สามหมื่นกว่ารายชื่อ ที่มีข้อเสนอการปรับปรุงกายภาพทางม้าลาย และเสนอให้เพิ่มโทษทางกฎหมาย ซึ่งจริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นสิทธิพื้นฐาน ที่ประชาชนควรจะได้รับเอง มากกว่า ที่ต้องมาเรียกร้องจากรัฐ ทำไมต้องรอให้มีการสูญเสียเกิดขึ้นก่อนทุกครั้ง กว่าที่ทุกๆส่วนในสังคมจะออกมาเทคแอคชั่น พอผ่านไปคนก็ลืม ควรแก้ปัญหาให้เห็นรูปธรรม ให้คนมีจิตสำนึก จากทั้งเพิ่มโทษ การรณรงค์ ในการรักษากฎการใช้ถนนให้ได้มาตรฐานจริงๆ ไม่ใช่ ทางม้าลายโรยผักชี นอกจากนี้ในเวทีเสวนาวันนี้ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้สมัครผู้ว่ากทม. 4 คน มาแสดงวิสัยทัศน์ต่อการแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยบนท้องถนน คนละ 5 นาที ทั้งนี้ทางคณะผู้จัดเวทีสาธารณะจะบันทึกคลิปการแสดงวิสัยทัศน์ไว้ เมื่อวันที่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่ากทม.หลังจากรับตำแหน่งไม่เกิน 90 วัน จะไปทวงถามคำสัญญาที่ให้ไว้ในเวทีสาธารณะ หมอกระต่าย ต้อง (ไม่) ตายฟรี ประกอบด้วย ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร รสนา โตสิตระกูล .-สำนักข่าวไทย