กรุงเทพฯ 8 ม.ค. – รมว.เกษตรฯ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องประชุมแผนกู้วิกฤติน้ำท่วมใต้พรุ่งนี้ ด้านข้อมูลวอร์รูมเกาะติดน้ำท่วมใต้ล่าสุดหลายพื้นที่เกษตรกรได้รับความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว เร่งระดมเครื่องมือ เครื่องจักร เรือ อากาศยานเข้าช่วยเหลือหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (9 ม.ค.) พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน กรมปศุสัตว์ กรมประมง และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติการเกษตร เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรฯ เพื่อหารือสถานการณ์ความเสียหายและผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ รวมถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือทั้งช่วงการเผชิญเหตุและการฟื้นฟูเพื่อปรับสภาพพื้นที่การเกษตรให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ทั้งนี้ หลังจากสั่งการให้ตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางการเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ห้องประชุม 137 กระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อให้ทุกหน่วยรายงานผลการให้ความช่วยเหลือน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ประเมินสถานการณ์ผลกระทบด้านการเกษตรกลับมายังส่วนกลางแบบวันต่อวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เพื่อวางแผนแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย โดยมีนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติการเกษตร
นายธีรภัทร กล่าวว่า ล่าสุดขณะนี้ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่จังหวัดภาคใต้ 10 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง ทั้งนี้ มีประชาชนได้รับผลกระทบ 330,318 ครัวเรือน โดยแนวโน้มสถานการณ์ ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา (8 ม.ค.60 เวลา 05.00 น.) ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ส่วนภาคใต้ตอนล่างบริเวณปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เริ่มมีปริมาณฝนลดลง โดยภาพรวมของสถานการณ์ฝนบริเวณภาคใต้จะลดลงวันที่ 9 มกราคมนี้
สำหรับผลกระทบด้านการเกษตรตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 – ปัจจุบัน พบว่า ด้านพืช พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 963,334 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 246,359 ไร่ พืชไร่ 21,673 ไร่ พืชสวนและอื่น ๆ 709,673 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ผลกระทบเพิ่มในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 จำนวน 26,053 ไร่ แบ่งเป็นข้าว 6,693 ไร่ พืชไร่ 1,704 ไร่ พืชสวนและอื่น ๆ 17,656 ไร่ ด้านประมง พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคาดว่าจะเสียหาย 27,122.19 ไร่ และ 40,163 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ผลกระทบเพิ่มในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 จำนวน 477.19 ไร่ และ 511 ตารางเมตร ด้านปศุสัตว์ สัตว์ได้รับผลกระทบ 5,760,323 ตัว แปลงหญ้า 14,878 ไร่ เป็นสัตว์ได้รับผลกระทบเพิ่มในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 จำนวน 2,340,358 ตัว แปลงหญ้า 5,623 ไร่ มีสัตว์ตายหรือสูญหาย 52,958 ตัว
นายธีรภัทร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากมาตรการช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถขุดเพื่อกำจัดผักตบชวาและเปิดทางน้ำเพื่อเร่งการระบายน้ำ การอพยพสัตว์ แจกเสบียงสัตว์ และส่งตรวจการประมงขนาด 15 ฟุต ออกช่วยเหลือราษฎรและร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ แจกจ่ายถุงยังชีพในพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว กระทรวงเกษตรฯ ยังระดมอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อการเผชิญเหตุ เช่น เครื่องสูบน้ำขนาดต่าง ๆ 400 เครื่อง พร้อมเครื่องมือ เครื่องจักรกล อากาศยาน 5 ลำ เรือตรวจการประมง 60 ลำ เสบียงสัตว์ 1,200,000 กิโลกรัม ซึ่งพร้อมสนับสนุนงานของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติด้วย
“การเตรียมการช่วยเหลือฟื้นฟูในส่วนพื้นที่ที่มีระดับน้ำเริ่มลดลงได้สั่งการทุกหน่วยงานด้านวิชาการเข้าปฏิบัติการฟื้นฟูเพื่อปรับสภาพพื้นที่การเกษตรและการประกอบอาชีพเกษตรกรรมของเกษตรกรที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด รวมถึงเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี 2559/2560 กรณีได้รับผลกระทบครัวเรือนละ 3,000 บาท และสำรวจความเสียหายสิ้นเชิง เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2559 ต่อไป ” นายธีรภัทร กล่าว.-สำนักข่าวไทย