จันทบุรี 31 ม.ค. – คดี “เสี่ยแดง” ใช้ปืนรัวยิงอดีตภรรยา ลูกสาว และคนสนิท เสียชีวิต 4 ศพ ล่าสุด “เสี่ยแดง” เปิดปากอ้างฆ่าเพราะแค้นเรื่องเงินและความรัก ยืนยันทุกคนสมควรตาย ตำรวจคุมตัวไปทำแผนฯ แต่ยังทำไม่ครบทุกจุด ต้องยกเลิกกลางคัน เพราะญาติเหยื่อมารอรุมประชาทัณฑ์เพียบ
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำกำลังตำรวจคุมตัวนายประสิทธิ์ ภูทองสุข ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงนางวันเพ็ญ ประสานวงศ์ อดีตภรรยา, น.ส.อารยา หรือ โบว์ เชื้อเจริญ ลูกของนางวันเพ็ญ, นายธีระชาติ เต่าทอง คนที่ยืมเงินแม่ของผู้ต้องหาไปแล้วคืนไม่ครบ และนายบุญร่วม แสงมา เพื่อนรักที่ขายปืนไม่มีคุณภาพให้ ไปแผนประกอบคำรับสารภาพ ริมถนนสายจันทบุรี-สระแก้ว หน้าวัดตามูล และตลาดนัดบ้านตามูล อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ท่ามกลางญาติและไทยมุงจำนวนมาก
ก่อนทำแผนฯ การเค้นสอบผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยิงนางวันเพ็ญ เพราะแค้นที่แต่งงานด้วยสินสอดเป็นทองคำหนัก 8 บาท รถดัมป์ 6 ล้อ 1 คัน ราคากว่า 6 ล้านบาท โดยช่วงที่อยู่กินกัน ได้นำเงินที่มีทั้งหมดไปลงทุนทำสวนกับนางวันเพ็ญ แต่สุดท้ายทะเลาะกันบ่อย ชีวิตคู่เลยต้องจบลง ย้ำว่าตอนอยู่ด้วยกันทำเงินให้ปีละหลายล้าน เมื่อแยกทางกันขอคืนแค่ 200,000 บาท แต่ไม่ได้ แถมที่ผ่านมาถูกทั้งนางวันเพ็ญ และ น.ส.อารยา ลูกเลี้ยง พูดจาดูหมิ่น เหยียดหยามศักดิ์ศรี ทำให้อาฆาตแค้น
วันก่อเหตุ (30 ม.ค.) ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาดักรออดีตภรรยาและลูกเลี้ยง ที่ตลาดนัดบ้านตามูล เพราะทราบว่าทั้งคู่จะมาซื้อกับข้าวที่นี่ กระทั่งอดีตภรรยาลงมาจากรถ เขาจึงปรี่เข้าไปยิง 2 นัด จากนั้นตรงไปยิงลูกเลี้ยงอีก 3 นัด พอแน่ใจว่าทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว ก็ได้ขับรถของอดีตภรรยาไปยิงนายธีระชาติ ที่สวนลำไย อ.โป่งน้ำร้อน โดยสาเหตุที่ยิงนายธีระชาติ เพราะยืมเงินของแม่ผู้ต้องหาไป 40,000 บาท แต่ไม่ยอมคืน อ้างไม่มีเงิน แต่ผู้ต้องหาเห็นว่าเพิ่งออกรถป้ายแดง ต่อมาเห็นว่าไหนๆ ก็ยิงหลายคนแล้ว จึงขับรถไปก่อเหตุยิงนายบุญร่วมอีกคน เหตุเพราะแค้นที่หลอกขายปืนปลอม ในราคา 17,000 บาท แถมพอไปขอเงินคืน บอกจะเอาแค่ 7,000 บาท กลับถูกปฏิเสธ ทำให้ต้องยิงนายบุญร่วม เป็นศพที่ 4 พร้อมย้ำว่า ตลอดการก่อเหตุ รถที่ขับไปนั้นมีศพของลูกเลี้ยงติดรถไปด้วยทุกที่ เพราะลูกเลี้ยงเสียชีวิตคารถ แล้วไม่รู้จะเอาไปทิ้งไว้ที่ไหน รวมถึงเล่าอย่างไม่สะทกสะท้านด้วยว่า หลังก่อเหตุได้ไปนั่งดื่มเหล้า และหากไม่ถูกจับเสียก่อน คิดไว้แล้วว่าจะไปยิงคนที่แค้นอีก 1 คน แถมยังย้ำว่า เหยื่อทุกคนสมควรตายแล้ว โดยเฉพาะอดีตภรรยาที่เวลาอยู่ด้วยกันชอบทำเหมือนตัวเขาไม่ใช่คน
ทั้งนี้ การทำแผนฯ เหมือนจะราบรื่น แม้จะมีไทยมุงจำนวนมาก แต่ปรากฏว่า ภายหลังทำแผนฯ จุดแรก พอพาไปจุดที่ 2 ซึ่งเป็นสวนลำไย อ.โป่งน้ำร้อน จุดที่ยิงเหยื่อรายที่ 3 ตำรวจเห็นว่ามีญาติของเหยื่อและไทยมุงจำนวนมากมาดักรอการทำแผนฯ เกรงว่าจะเกิดการชุลมุนรุมประชาทัณฑ์ จึงรีบพาตัวผู้ต้องหากลับ สภ.สอยดาว และยุติการทำแผนฯ ในทุกจุดที่เหลือทันที
ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ย้ำว่า ที่ผู้ต้องหาก่อเหตุเป็นเพราะความแค้น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตทุกคนว่าถูกกล่าวอ้างป้ายความผิดหรือไม่ จะเชิญญาติและผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงด้วย โดยคดีนี้ ผบ.ตร.ได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนหาข้อเท็จจริง มีกองพิสูจน์หลักฐานเข้าร่วม เพื่อเก็บรายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวกับคดี ไม่ว่าจะเป็นดีเอ็นเอ กระสุนปืน อาวุธปืน
เบื้องต้นแจ้ง 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และมีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตรวจพบว่าเป็นปืนที่มาจาก จ.ลพบุรี แต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบที่มาที่ไป หากพบหลักฐานอื่นอีก จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม. – สำนักข่าวไทย