หอการค้าไทยเผยตรุษจีนปีนี้ไม่คึกคัก ของแพง เศรษฐกิจไม่ดี

กรุงเทพฯ 27 ม.ค.-มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผยช่วงตรุษจีนปีนี้ไม่คึกคักของแพงเศรษฐกิจไม่ดีรายได้ลด ฉุดเงินสะพัดติดลบ 11.82% ต่อเนื่อง 3 ปี มูลค่าเหลือ 3.9 หมื่นล้านบาท ชี้รัฐบาลจะต้องเติมเงินคุมโควิดให้ได้


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2565 พบว่า บรรยากาศการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ไม่คึกคัก โดยมีมูลค่าเงินสะพัดที่ 39,627 ล้านบาท ขยายตัวติดลบจากตรุษจีนปีก่อนร้อยละ 11.82 ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และเป็นมูลค่าเงินสะพัดที่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ทั้งนี้เป็นผลมาจากประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเนื่องจากสินค้าราคาแพง รวมถึงรายได้ที่ลดลง ทำให้จำกัดในเรื่องของการซื้อสินค้าไหว้เจ้า การเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงการใช้จ่ายอื่นๆลดลง

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนไม่มีผลกับการใช้จ่ายและการเดินทางของประชาชนมากนักเนื่องจากประชาชนมีการปรับตัว และรู้จักระมัดระวังในเรื่องของการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากขึ้นแล้ว ไม่ได้ส่งผลกระทบกับพฤติกรรมของประชาชนมากเหมือนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาที่ประเทศไทยเพิ่งเริ่มรู้จักโควิด-19


ทั้งนี้ จากรายได้ของประชาชนที่ลดลงส่งผลทำให้เป็นหนี้และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาท รัฐบาลยังจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเติมเงินลงไปในกระเป๋าของประชาชน เพื่อช่วยพยุง เศรษฐกิจในช่วงที่สถานการณ์ราคาสินค้าราคาแพง และรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องดูแล ควบคุมโควิด-19 ให้ได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี เพื่อที่จะเดินหน้าเศรษฐกิจ ให้ฟื้นตัวเต็มที่ได้ตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ร่วมกับการใช้มาตรการที่มีการผ่อนคลายทางเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งทางศูนย์พยากรณ์มองว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 3.5 อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเป็นห่วงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อาจปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับค่าขนส่ง ที่ยังคงมีราคาสูงและมีผลกับการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรก และจากการที่ IMF ได้มีการประเมินเศรษฐกิจของโลกปีนี้ขยายตัวลดลง จากประมาณการเดิมร้อยละ 4.9 เหลือร้อยละ 4.4 เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวลดลงจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 4 เศรษฐกิจจีนเติบโตต่ำกว่าร้อยละ 5 และราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจขยับตัวอยู่ที่ 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็นปัจจัยที่น่าจะมีความกังวลเพราะจะส่งผลกระทบกับการค้าโลกในภาพรวมรวมถึงการค้าของประเทศไทยด้วยจึงต้องมีการจับตาเป็นพิเศษอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เต้นฮากา

สส.เต้นฮากา ประท้วงในสภานิวซีแลนด์

ที่ประชุมสมาชิกรัฐสภานิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ต้องระงับชั่วคราว หลังจากที่สมาชิกสภาหลายคนซึ่งเป็นชนเผ่าเมารี ได้ลุกขึ้นเต้นฮากา (haka) ขัดขวางการลงนามในกฎหมาย

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

จ่อชงหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นกลุ่ม 60 ปีขึ้นไป

รมว.คลัง รับเตรียมเสนอหลักการเข้า คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ จ่ายเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป หลัง “ทักษิณ” เปรยบนเวทีปราศรัย จ.อุดรธานี ชี้ใช้งบไม่มาก ยืนยันไม่ทับสิทธิกลุ่มเปราะบางเฟสแรก บอกมีเฟส 2-3

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

ข่าวแนะนำ

พะยูนตัวแรกของฤดูกาลท่องเที่ยวโผล่

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งพบพะยูนบริเวณหน้าเกาะลิบง จังหวัดตรัง เป็นตัวแรก สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่