นายกฯ ชี้น้ำท่วมเชียงราย จะคลี่คลายใน 1-2 วันนี้

เชียงราย 13 ก.ย.-นายกฯ กำชับ ก.พาณิชย์ ดูแลราคาสินค้า ไม่ให้เดือดร้อนประชาชน ชี้สถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงราย 1-2 วันนี้จะคลี่คลาย เล็งหารือทางการเมียนมา แก้ปัญหาบุกรุกกีดขวางทางน้ำ แนะประชาชนลงทะเบียนแอปทางรัฐ เป็นช่องทางสำรวจ-สะดวกจ่ายเงินเยียวยา ขอปฏิบัติตามแจ้งเตือน เตรียมรับมือน้ำกำลังเข้าหนองคาย

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลัง การลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงรายว่า ตนและ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ 2 จุดคือ ที่อำเภอ แม่สาย และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ต้องขอขอบคุณ ทุกภาคส่วนจากใจจริง ที่เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ได้อย่างทันเวลาไม่ว่าจะเป็น หน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานฝ่ายปกครอง ภาค ประชาชน และจิตอาสา ที่ช่วยกันอย่างเต็มที่ทำให้ สถานการณ์ที่หนักเบาลง และจากการพบกับประชาชน ได้ให้กำลังใจกับคนที่เข้ามาช่วยเหลือด้วย เพราะหน้างานค่อน ข้างหนักมาก จึงขอส่งกำลังใจตรงนี้ให้ผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือและจิตอาสาทุกคน ซึ่งขอให้ดูแลตัวเองด้วย เพื่อที่จะได้มีแรงไปดูแลประชาชนต่อ


“ส่วนเรื่องของอาหารและน้ำ ตอนนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะทุกภาคส่วนได้เตรียมการ และดูแลอย่างเพียงพอแล้ว และได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ว่าตอนนี้ระดับน้ำลดลงมาเรื่อย ๆแล้ว และส่งเจ้าหน้าที่เข้าไป ช่วยพี่น้องประชาชน ที่ติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมได้เกือบจะหมดแล้ว เหลืออีกจำนวนไม่มาก ซึ่งวันนี้จนถึงพรุ่งนี้ กระแสน้ำ ที่แรงและเชี่ยวจะน้อยลงเรื่อย ๆ ฉะนั้นจะเริ่มส่งเรือท้องแบน เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ติดอยู่ในพื้นที่ออกมาได้ ตรงนี้ขอให้ประชาชน ที่ติดตามอยู่ได้มีความสบายใจขึ้น” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนที่ไป อำเภอแม่สาย จริง ๆแล้วพื้นที่ติดกับเมียนมามีการบุกรุก ทำให้ช่องทางการระบายน้ำแคบลงทำให้การระบายน้ำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถือเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ที่ต้องคุยกันในรายละเอียด ต่อไปในอนาคต ซึ่งได้โน๊ตสิ่งจำเป็นเหล่านี้เอาไว้แล้ว ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ก็จะพยายามรีบแก้ไขตรงนี้ให้เร็วที่สุด


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างที่ลงพื้นที่ วัดพรหมวิหาร ส่วนมากที่เจอจะเป็นชาวเขาที่ไม่มีบัตรประชาชน ซึ่งตรงนี้ต้องพูดถึงเรื่องการเยียวยาบุคคลเหล่านี้ ที่ไม่มีบัตรคนไทย จึงได้สั่งการให้ กระทรวงมหาดไทย เร่งมาตรการพิสูจน์สัญชาติให้เร็วที่สุดสามารถให้ผู้ประสบ ภัยได้รับเงินเยียวยาเร็วที่สุดเช่นกัน สำหรับในส่วนของเส้นทางคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้สั่งการให้กรมทางหลวง เร่งซ่อมแซมสะพานที่ขาด เพื่อให้มีการสัญจรไปมาได้ง่ายขึ้น จากที่น้ำลดลงแล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้ย้ำว่าไม่ให้ขึ้นราคาสินค้าสิ่งที่จำเป็น เพื่อไม่ให้ ชาวบ้านเกิดความเดือดร้อน เพิ่มเติมในการต้องเสียเงินซื้อสินค้าเกษตร หรือสินค้าจำเป็นของตัวเอง พร้อมกันนี้ ฝากพี่น้องประชาชน หลังน้ำลดแล้ว ขอให้ช่วยกันคนละไม้ละมือในการทำความสะอาด บ้านเรือนให้กลับมาสู่เหตุการณ์ปกติเร็วที่สุดแน่นอน รัฐบาลจะหางบประมาณใน การเยียวยาตรงนี้ให้อย่างแน่นอน

“ซึ่งในเรื่องของการเยียวยาตอนนั่งเครื่องบินมา ได้พูดกันถึงแอปทางรัฐ ที่เราใช้ลงทะเบียนในเรื่องดิจิทัลวอเลต ซึ่งเวลานี้เหลืออีก 2 วัน ในการลงทะเบียน จริง ๆแล้ว อยากให้ทุกท่านได้ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ เพราะตรงนี้จะเป็นช่องทางที่ ง่ายที่สุดที่เราจะสามารถติดต่อกับประชาชนได้ เพราะในอนาคต อย่างไรก็ตามเราก็ต้องไปสู่ Digital Government อยู่แล้ว ฉะนั้นอันนี้เป็นจุดเริ่มต้น เพื่อให้ทุกคนลงทะเบียน ให้รู้ว่าแหล่งที่พักอาศัยอยู่ที่ไหนกันบ้าง แล้วตรงไหนเป็นที่ประสบภัย เพื่อที่รัฐบาลสามารถจ่ายค่าเยียวยาได้ รวดเร็วถึงมือพี่น้องประชาชน จริงๆ แต่อันนี้ต้องขอกลับไปคุยกับทางกระทรรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และจิสด้าด้วยในรายละเอียดเรื่อง นี้เพิ่มเติม แต่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิด ขึ้นได้ไม่ยาก เพราะอยากจะเยียวยาพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด เพราะจากการลงพื้นที่พบว่า หนักมากบ้านเรือนไปหมด แต่ก็ยังดีใจที่ยังสามารถให้กำลังใจกันได้ ซึ่งขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่าน ส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวแม่สาย และ ชาวจังหวัด เชียงรายด้วย มั่นใจว่าจะเป็นสิ่งที่ถ้าเขาได้อ่านจะรู้สึกมีกำลังใจขึ้น” นายกฯ กล่าว


เมื่อถามถึงสถานการณ์จังหวัดเชียงรายหรือจะคลี่คลายเมื่อใด เนื่องจากนายกฯสั่งการให้เตรียมรับมือน้ำที่จะลงไปที่จังหวัดหนองคาย และ จ.เลย นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ให้ทางการแจ้งไปยังจังหวัดหนองคายแล้วว่าน้ำจะไปทางจังหวัดหนองคายและพื้นที่ใกล้เคียง จึงขอให้ประชาชนทำตามการแจ้งเตือน เพื่อให้ปัญหาที่เกิดขึ้นเบาลง ขอย้ำว่าครั้งนี้ทุกคนมีความตั้งใจมากๆ ที่จะเยียวยาอย่างจริงจังดังนั้นขอให้ประชาชนรักษาชีวิตของตนเองไว้ เมื่อรู้ว่าจะมีน้ำไหลมาก็ขอให้ออกมาจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้จากที่รับรายงานวันนี้ สถานการณ์น้ำที่เชียงรายเริ่มจะดีขึ้น น้ำเริ่มลดลงเรื่อยๆส่วนฝนที่ตกลงมาก็ไม่ได้มีปริมาณมากพอพี่จะทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและเกิดน้ำท่วมเพิ่มมากชึ้น ขอให้ชาวเชียงรายสบายใจได้ว่ามันหยุดแล้ว แต่อาจจะมีฝนตกลงมาบ้าง ส่วนเรื่องพายุนั้นไม่มี

ส่วนได้มีการรายงานความเสียหายเบื้องต้นมาแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ แต่เราได้มาเห็นแล้ว และตอนนี้พยายามติดต่อเข้าหน้าที่ทุกคน ไม่ว่าจะหน่วยจิตอาสา และตนก็ได้คอมเม้นท์ไปแล้วว่าเรามองภาพรวมว่าจะดูแลอย่างไร เช่น แนวกั้นต่างๆจุดใหญ่ แต่อยากทราบจุดเล็กๆเช่นกัน ปัญหาจริงๆที่เกิดขึ้นเพื่อจะแก้ปัญหาตรงจุด ซึ่งการลงพื้นวันนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดี หลายภาคส่วนพร้อมแนะนำให้เราเลยว่าเกิดปัญหาอะไรบ้าง

เมื่อถามว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 17 ก.ย. จะเร่งนำเรื่องการสำรวจความเสียหาและเยียวยาเข้าหารือหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มี น่าจะมีแน่นอน และแน่นอนว่าจะมีการประชุมเล็ก ประชุมย่อยเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า 16-17 ก.ย. จะเรียกหลายฝ่ายมาพูดคุยกัน เช่น เรื่องแอพพิเคชั่นทางรัฐ จะเรียกนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาพูดคุยว่าทำอะไรได้บ้าง และการลงพื้นที่วันนี้ (13 ก.ย.) รองนายกฯมาหลายท่าน ฉะนั้นสิ่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของท่าน ท่านจัดการแน่นอน

เมื่อถามว่า แอปทางรัฐ จะป้องกันการทุจริตในการจ่ายเงินเยียวยาด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเป็นระบบดิจิทัลแล้ว เรื่องนี้ก็จะถูกสกรีนโดยปริยาย ก็เป็นเรื่องที่ดี อยากให้เกิดขึ้นจริง เพราะอยากให้เงินเยียวยาถึงชาวบ้านได้เร็ว เพราะได้รับการคอมเพน ว่าได้รับการเยียวยาจริงแต่ใช้เวลานานมันก็จะลำบาก อันนี้ก็พยายามจะแก้ปัญหาจริงนี้.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]