นายกฯ ชี้น้ำท่วมเชียงราย จะคลี่คลายใน 1-2 วันนี้

เชียงราย 13 ก.ย.-นายกฯ กำชับ ก.พาณิชย์ ดูแลราคาสินค้า ไม่ให้เดือดร้อนประชาชน ชี้สถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงราย 1-2 วันนี้จะคลี่คลาย เล็งหารือทางการเมียนมา แก้ปัญหาบุกรุกกีดขวางทางน้ำ แนะประชาชนลงทะเบียนแอปทางรัฐ เป็นช่องทางสำรวจ-สะดวกจ่ายเงินเยียวยา ขอปฏิบัติตามแจ้งเตือน เตรียมรับมือน้ำกำลังเข้าหนองคาย

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลัง การลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงรายว่า ตนและ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ 2 จุดคือ ที่อำเภอ แม่สาย และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ต้องขอขอบคุณ ทุกภาคส่วนจากใจจริง ที่เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ได้อย่างทันเวลาไม่ว่าจะเป็น หน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานฝ่ายปกครอง ภาค ประชาชน และจิตอาสา ที่ช่วยกันอย่างเต็มที่ทำให้ สถานการณ์ที่หนักเบาลง และจากการพบกับประชาชน ได้ให้กำลังใจกับคนที่เข้ามาช่วยเหลือด้วย เพราะหน้างานค่อน ข้างหนักมาก จึงขอส่งกำลังใจตรงนี้ให้ผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือและจิตอาสาทุกคน ซึ่งขอให้ดูแลตัวเองด้วย เพื่อที่จะได้มีแรงไปดูแลประชาชนต่อ


“ส่วนเรื่องของอาหารและน้ำ ตอนนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะทุกภาคส่วนได้เตรียมการ และดูแลอย่างเพียงพอแล้ว และได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ว่าตอนนี้ระดับน้ำลดลงมาเรื่อย ๆแล้ว และส่งเจ้าหน้าที่เข้าไป ช่วยพี่น้องประชาชน ที่ติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมได้เกือบจะหมดแล้ว เหลืออีกจำนวนไม่มาก ซึ่งวันนี้จนถึงพรุ่งนี้ กระแสน้ำ ที่แรงและเชี่ยวจะน้อยลงเรื่อย ๆ ฉะนั้นจะเริ่มส่งเรือท้องแบน เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ติดอยู่ในพื้นที่ออกมาได้ ตรงนี้ขอให้ประชาชน ที่ติดตามอยู่ได้มีความสบายใจขึ้น” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนที่ไป อำเภอแม่สาย จริง ๆแล้วพื้นที่ติดกับเมียนมามีการบุกรุก ทำให้ช่องทางการระบายน้ำแคบลงทำให้การระบายน้ำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถือเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ที่ต้องคุยกันในรายละเอียด ต่อไปในอนาคต ซึ่งได้โน๊ตสิ่งจำเป็นเหล่านี้เอาไว้แล้ว ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ก็จะพยายามรีบแก้ไขตรงนี้ให้เร็วที่สุด


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างที่ลงพื้นที่ วัดพรหมวิหาร ส่วนมากที่เจอจะเป็นชาวเขาที่ไม่มีบัตรประชาชน ซึ่งตรงนี้ต้องพูดถึงเรื่องการเยียวยาบุคคลเหล่านี้ ที่ไม่มีบัตรคนไทย จึงได้สั่งการให้ กระทรวงมหาดไทย เร่งมาตรการพิสูจน์สัญชาติให้เร็วที่สุดสามารถให้ผู้ประสบ ภัยได้รับเงินเยียวยาเร็วที่สุดเช่นกัน สำหรับในส่วนของเส้นทางคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้สั่งการให้กรมทางหลวง เร่งซ่อมแซมสะพานที่ขาด เพื่อให้มีการสัญจรไปมาได้ง่ายขึ้น จากที่น้ำลดลงแล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้ย้ำว่าไม่ให้ขึ้นราคาสินค้าสิ่งที่จำเป็น เพื่อไม่ให้ ชาวบ้านเกิดความเดือดร้อน เพิ่มเติมในการต้องเสียเงินซื้อสินค้าเกษตร หรือสินค้าจำเป็นของตัวเอง พร้อมกันนี้ ฝากพี่น้องประชาชน หลังน้ำลดแล้ว ขอให้ช่วยกันคนละไม้ละมือในการทำความสะอาด บ้านเรือนให้กลับมาสู่เหตุการณ์ปกติเร็วที่สุดแน่นอน รัฐบาลจะหางบประมาณใน การเยียวยาตรงนี้ให้อย่างแน่นอน

“ซึ่งในเรื่องของการเยียวยาตอนนั่งเครื่องบินมา ได้พูดกันถึงแอปทางรัฐ ที่เราใช้ลงทะเบียนในเรื่องดิจิทัลวอเลต ซึ่งเวลานี้เหลืออีก 2 วัน ในการลงทะเบียน จริง ๆแล้ว อยากให้ทุกท่านได้ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ เพราะตรงนี้จะเป็นช่องทางที่ ง่ายที่สุดที่เราจะสามารถติดต่อกับประชาชนได้ เพราะในอนาคต อย่างไรก็ตามเราก็ต้องไปสู่ Digital Government อยู่แล้ว ฉะนั้นอันนี้เป็นจุดเริ่มต้น เพื่อให้ทุกคนลงทะเบียน ให้รู้ว่าแหล่งที่พักอาศัยอยู่ที่ไหนกันบ้าง แล้วตรงไหนเป็นที่ประสบภัย เพื่อที่รัฐบาลสามารถจ่ายค่าเยียวยาได้ รวดเร็วถึงมือพี่น้องประชาชน จริงๆ แต่อันนี้ต้องขอกลับไปคุยกับทางกระทรรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และจิสด้าด้วยในรายละเอียดเรื่อง นี้เพิ่มเติม แต่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิด ขึ้นได้ไม่ยาก เพราะอยากจะเยียวยาพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด เพราะจากการลงพื้นที่พบว่า หนักมากบ้านเรือนไปหมด แต่ก็ยังดีใจที่ยังสามารถให้กำลังใจกันได้ ซึ่งขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่าน ส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวแม่สาย และ ชาวจังหวัด เชียงรายด้วย มั่นใจว่าจะเป็นสิ่งที่ถ้าเขาได้อ่านจะรู้สึกมีกำลังใจขึ้น” นายกฯ กล่าว


เมื่อถามถึงสถานการณ์จังหวัดเชียงรายหรือจะคลี่คลายเมื่อใด เนื่องจากนายกฯสั่งการให้เตรียมรับมือน้ำที่จะลงไปที่จังหวัดหนองคาย และ จ.เลย นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ให้ทางการแจ้งไปยังจังหวัดหนองคายแล้วว่าน้ำจะไปทางจังหวัดหนองคายและพื้นที่ใกล้เคียง จึงขอให้ประชาชนทำตามการแจ้งเตือน เพื่อให้ปัญหาที่เกิดขึ้นเบาลง ขอย้ำว่าครั้งนี้ทุกคนมีความตั้งใจมากๆ ที่จะเยียวยาอย่างจริงจังดังนั้นขอให้ประชาชนรักษาชีวิตของตนเองไว้ เมื่อรู้ว่าจะมีน้ำไหลมาก็ขอให้ออกมาจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้จากที่รับรายงานวันนี้ สถานการณ์น้ำที่เชียงรายเริ่มจะดีขึ้น น้ำเริ่มลดลงเรื่อยๆส่วนฝนที่ตกลงมาก็ไม่ได้มีปริมาณมากพอพี่จะทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและเกิดน้ำท่วมเพิ่มมากชึ้น ขอให้ชาวเชียงรายสบายใจได้ว่ามันหยุดแล้ว แต่อาจจะมีฝนตกลงมาบ้าง ส่วนเรื่องพายุนั้นไม่มี

ส่วนได้มีการรายงานความเสียหายเบื้องต้นมาแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ แต่เราได้มาเห็นแล้ว และตอนนี้พยายามติดต่อเข้าหน้าที่ทุกคน ไม่ว่าจะหน่วยจิตอาสา และตนก็ได้คอมเม้นท์ไปแล้วว่าเรามองภาพรวมว่าจะดูแลอย่างไร เช่น แนวกั้นต่างๆจุดใหญ่ แต่อยากทราบจุดเล็กๆเช่นกัน ปัญหาจริงๆที่เกิดขึ้นเพื่อจะแก้ปัญหาตรงจุด ซึ่งการลงพื้นวันนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดี หลายภาคส่วนพร้อมแนะนำให้เราเลยว่าเกิดปัญหาอะไรบ้าง

เมื่อถามว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 17 ก.ย. จะเร่งนำเรื่องการสำรวจความเสียหาและเยียวยาเข้าหารือหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มี น่าจะมีแน่นอน และแน่นอนว่าจะมีการประชุมเล็ก ประชุมย่อยเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า 16-17 ก.ย. จะเรียกหลายฝ่ายมาพูดคุยกัน เช่น เรื่องแอพพิเคชั่นทางรัฐ จะเรียกนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาพูดคุยว่าทำอะไรได้บ้าง และการลงพื้นที่วันนี้ (13 ก.ย.) รองนายกฯมาหลายท่าน ฉะนั้นสิ่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของท่าน ท่านจัดการแน่นอน

เมื่อถามว่า แอปทางรัฐ จะป้องกันการทุจริตในการจ่ายเงินเยียวยาด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเป็นระบบดิจิทัลแล้ว เรื่องนี้ก็จะถูกสกรีนโดยปริยาย ก็เป็นเรื่องที่ดี อยากให้เกิดขึ้นจริง เพราะอยากให้เงินเยียวยาถึงชาวบ้านได้เร็ว เพราะได้รับการคอมเพน ว่าได้รับการเยียวยาจริงแต่ใช้เวลานานมันก็จะลำบาก อันนี้ก็พยายามจะแก้ปัญหาจริงนี้.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]