ทำเนียบรัฐบาล 21 ม.ค.-นายกฯ ประชุมศบศ. เตรียมพิจารณาแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ในพื้นที่ อ.หัวหิน อ.ชะอำ พร้อมรับทราบความคืบหน้ามาตรการดึงดูดนักลงทุนที่มีศักยภาพสูง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบ Video Conference ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจล่าสุดพบว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังมีข้อจำกัดจากตลาดแรงงานที่ยังเปราะบาง และการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในหมวดพลังงานและอาหารสด เนื่องจากปัจจัยทางด้านอุปทานเป็นสำคัญ
ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะ การจัดตั้งศูนย์การตรวจลงตราวีซ่าสำหรับผู้พำนักระยะยาวหรือ LTR Service center ความคืบหน้ามาตรการส่งเสริมการลงทุนในกิจการคลาวด์เซอร์วิส และมาตรการดึงดูดการลงทุนในสตาร์ทอัพ โดยยกเว้นภาษีลงทุนให้กับกลุ่มสตาร์ทอัพ ซึ่งกรมสรรพากรจะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาตามขั้นตอนของกฎหมาย คาดว่าจะออกกฏหมายได้ภายในไตรมาสแรก โดยให้มีผล 10 ปีนับตั้งแต่พระราชกฤษฎีกาบังคับใช้
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ ต้องใช้เทคโนโลยีและต้องประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามที่รัฐกำหนดการใช้เทคโนโลยีต้องทำให้เกิดรายได้ร้อยละ 80 ธุรกิจต้องถูกรับรองโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(สวทช.) หรือหน่วยงานที่กรมสรรพากรกำหนด สำหรับนักลงทุนให้สิทธิ์กับนักลงทุนที่ลงทุนเองโดยตรง และที่ลงทุนผ่านธุรกิจเงินร่วมลงทุน โดยสามารถเป็นได้ทั้งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลทั้งไทยและต่างประเทศต้องถือหุ้นขั้นต่ำ 24 เดือน หากเป็นธุรกิจเงินร่วมลงทุนในไทยต้องจดแจ้งกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ขณะเดียวกันเตรียมพิจารณาเห็นชอบหลักการแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Thailand Wellness sandbox ในพื้นที่อ.หัวหิน อ.ชะอำ เชื่อมโยงจากพื้นที่นำร่องการเปิดประเทศสู่หัวหิน -ชะอำ โดยมีเป้าหมายนักท่องเที่ยวในแถบอาเซียน ทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง และอเมริกา แคนาดา.-สำนักข่าวไทย