จำคุก 3 ปี เจ้าของร้านเพชร เบิกความเท็จ

ศาลอาญาธนฯ 20 ม.ค.-ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี เจ้าของร้านเพชร เบิกความเท็จ กล่าวหาพ่อค้าขายไก่ฉกเพชร 15 ล้านบาท เป็นแพะติดคุกฟรี


นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ พ่อค้าไก่ย่างชาวนครพนม แพะคดีฉกเพชร 15 ล้านบาท ติดคุกฟรีเกือบ 8 เดือน เมื่อปี 2559 พร้อมภรรยา เดินทางไปที่ศาลอาญาธนบุรี เพื่อฟังคำพิพากษา กรณีเจ้าของร้านเพชรเบิกความเท็จในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยเพชร 15 ล้านบาท

คดีนี้สืบเนื่องจากนางสาวบุญญรัตน์ รัศมีสุขานนท์ เจ้าของร้านเพชร ที่เคยแจ้งความตำรวจ สน.บางเสาธง เมื่อปี 2559 กล่าวหานายพิสิษฐ์ เป็นคนฉกเพชรหรือวิ่งราวเพชรมูลค่า 15 ล้านบาท ออกไปจากบ้านเช่าย่านบางเสาธง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทำให้ถูกคุมขังในเรือนจำนาน 7 เดือน 10 วัน กระทั่งต่อมาภรรยาเดินหน้าร้องขอความยุติธรรมกับกระทรวงยุติธรรมให้ช่วยเหลือ ในที่สุดศาลตัดสินยกฟ้องเมื่อปี 2561


เมื่อถึงเวลาศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นางสาวบุญญรัตน์ เบิกความเท็จ พิพากษาจำคุก 3 ปี นางสาวบุญญรัตน์ เจ้าของร้านเพชร ในข้อหาให้การเท็จ เป็นเหตุให้ผู้อื่นต้องถูกศาลสั่งจำคุกเป็นแพะรับบาปในคดีลักทรัพย์เครื่องเพชร นานถึง 7 เดือน 10 วัน

ภายหลังคำพิพากษา นายพิสิษฐ์ พ่อค้าไก่ย่าง กล่าวว่า ขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ยืนยันไม่เคยรู้จักกับคู่กรณีมาก่อน แต่คู่กรณีก็ชี้ตัวและให้ปากคำเท็จต่อพนักงานสอบสวน ตลอดจนให้การเท็จต่อศาลว่าตนลักเอาทรัพย์สินไป ในขณะที่ตนเข้าไปขอเลือกซื้อเครื่องเพชรที่บ้าน เป็นเหตุให้ตนถูกศาลตัดสินจำคุกฟรีนานถึง 7 เดือน 10 วัน จนญาติพี่น้องและภรรยาช่วยกันหาหลักฐานมาโต้แย้งยืนยันให้ตนเป็นผู้บริสุทธิ์ จนได้รับอิสรภาพออกมา ชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้ลำบากมาก ยังไม่ได้กลับไปขายไก่ย่าง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ไปรับจ้างกับภรรยาที่ร้านเสริมสวยของญาติในจังหวัดสระบุรี ส่วนลูกอยู่คนเดียวที่บ้านนครพนม เนื่องจากตนต้องเดินทางมาติดตามคดี

นายพิสิษฐ์ กล่าวอีกว่า การตกเป็นผู้ต้องหาขโมยเพชร จนต้องติดคุกเข้าไปนอนในเรือนจำยังตามหลอกหลอนทุกวัน ทำไมต้องเจอคนที่ใส่ร้ายทำให้สูญเสียทุกอย่างจนชีวิตพัง เพราะต้องไปกู้เงินก่อหนี้ยืมคนอื่น เพื่อยื่นประกันตัวและต่อสู้คดี เสียเวลา ชีวิตเราลำบากมากถึงขั้นล้มละลาย ย้ำไม่อยากให้คดีลักษณะนี้เกิดขึ้นกับใคร ให้มันจบที่ตน อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีให้ดีที่สุด ตรวจสอบว่าเขาผิดจริงไหมถึงจับกุม อย่าทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นอีก เตรียมหารือทนายเดินหน้าเอาผิดกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด เขาเรียกร้องค่าเสียหายสูงถึง 15.8 ล้านบาท ทางฝ่ายตนจะเรียกร้องเอาค่าชดเชยความเสียหายที่ต้องติดคุกฟรีในมูลค่าไม่แตกต่างกัน ขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขในใจ ขอปรึกษากับทนายความก่อน.


ทั้งนี้ ภายหลังศาลฯ มีคำพิพากษาจำคุก 3 ปี น.ส.บุญญรัตน์ จำเลยที่ 1 ฐานเบิกความเท็จ แล้ว ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ โดยมีหลักประกัน 150,000 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว