กรุงเทพฯ 11 ม.ค. – นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. (PTT) คาดว่าผลประกอบการของธุรกิจถ่านหินปีนี้จะดีกว่าในปีที่ผ่านมา เนื่องจากสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตให้อยู่ในระดับต่ำ โดยปีที่แล้วมีต้นทุนผลิตประมาณ 36.5 เหรียญสหรัฐ/ตัน และปีนี้มีแผนที่จะปรับลดต้นทุนการผลิตลงอีก ด้านราคาถ่านหินมีทิศทางที่ปรับเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยราคาถ่านหินนิวคาสเซิล ล่าสุดอยู่ที่ 65-66 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่จะยังคงรักษาระดับการผลิตเช่นเดียวกับปีที่แล้วที่ประมาณ 9 ล้านตัน
“ต้องจับตาทิศทางราคาถ่านหินว่าจะดีขึ้นอย่างมั่นคงหรือยังผันผวนอยู่ ปีที่ผ่านมาธุรกิจถ่านหินของ ปตท.ก็ยังทำกำไรได้ จากการบริหารจัดการทีดี และปีนี้น่าจะทำได้ดีขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาจีนที่จะพยายามควบคุมการใช้ถ่านหินให้น้อยลง เพื่อป้องกันมลภาวะอย่างไร” นายวิรัตน์ กล่าว
นายวิรัตน์ กล่าวว่า ปตท.ยังคงแผนการนำบริษัท Sakari Resources Limited (SAR) ซึ่งทำธุรกิจเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย เข้าตลาดหลักทรัพย์ในอินโดนีเซียเพื่อเป็นแหล่งที่จะช่วยระดมทุนเงินทุนได้ทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้คงยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะดำเนินการ
สำหรับงบลงทุนตามแผน 5 ปี (ปี 60-64) ของ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ที่ระดับ 14,950 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น นายวิรัตน์ กล่าวว่า ในส่วนนี้แม้จะมองว่าลดลงจากแผนช่วงที่ผ่าน ๆ มา แต่ก็เป็นงบที่คำนึงถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันและยังไม่ได้รวมงบลงทุนที่จะใช้ในการซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งคาดหวังว่าปีนี้จะน่าจะสรุปดีลได้การซื้อกิจการได้ .–สำนักข่าวไทย