ตรัง 12 ม.ค. – ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จ.ตรัง เชิญชวนเกษตรกรหันมาปลูกดอกหน้าวัวหลากสี ซึ่งเป็นไม้โตเร็ว ออกดอกตลอดทั้งปี สร้างสีสันและขายได้ราคาดี เปิดจองคิวล่วงหน้า
นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการที่ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จ.ตรัง นำเกษตรกรที่สนใจการปลูกเลี้ยงดอกหน้าวัว ไปชมแปลงแม่พันธุ์ ซึ่งมีทั้งสีขาว สีชมพู สีแดง สีแดงอมชมพูหรือสีโอโรส ซึ่งมีมากกว่า 3,000 ต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาสายพันธุ์ที่แข็งแรง ทนทาน ดอกสวยบานอยู่ได้นาน และเหมาะกับสภาพอากาศทางภาคใต้ เพื่อพร้อมออกจำหน่ายให้กับเกษตรกรในปี 2565 โดยต้นหน้าวัวใช้เวลาปลูก 2-3 เดือน สามารถตัดดอกไปขาย ราคาตั้งแต่ดอกละ 3-5 บาท เพื่อนำไปใช้ประดับตกแต่งอาคารสถานที่ต่างๆ ที่สำคัญคือดอกหน้าวัวจะทยอยออกดอกตลอดทั้งปี
พร้อมเร่งขยายพันธุ์ทั้งดอกหน้าวัวแบบตัดดอก และดอกหน้าวัวแบบกระถาง ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่กะทัดรัด เหมาะสำหรับตกแต่งในที่ทำงาน และปลูกเป็นไม้ฟอกอากาศ สร้างสีสันความสวยงามให้กับอาคารสถานที่ โดยเฉพาะดอกหน้าวัวกระถางได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มคนที่มีพื้นที่น้อย หรือเป็นบ้านจัดสรร ยิ่งในยุคโควิดยิ่งมีกระแสตอบรับไม้ดอกที่มีสีสัน ดูแลง่าย แต่ทนทานเพิ่มมากขึ้น คาดปีหน้าจะสามารถนำออกจำหน่ายได้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด คือต้นละ 15-20 บาทเท่านั้น เพื่อให้เกษตรกรนำไปต่อยอดเป็นอาชีพเสริมอีกทางหนึ่ง โดยปีนี้ได้เปิดให้เกษตรกรจองคิวไว้ก่อนล่วงหน้า
น.ส. กลอยใจ เย็นรักษา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการฯ กล่าวว่า ข้อดีของดอกหน้าวัวคือ เป็นไม้ประดับที่สวยงาม ดอกสามารถจำหน่ายได้ ส่วนที่เลี้ยงในกระถางสามารถนำไปตกแต่งสถานที่ได้ ซึ่งเกษตรกรเข้ามาศึกษาดูงานได้ แต่ต้องแจ้งล่วงหน้า หรือมีการนัดวัน หรือรวมกลุ่มกันมาแต่ไม่เยอะ เพื่อจะได้จัดวิทยากรมาให้ความรู้ได้อย่างทั่วถึง.-สำนักข่าวไทย