กรุงเทพฯ 28 ธ.ค.-ตำรวจบุกจับช่างภาพศิลปะชื่อดัง ล่อลวงสาวถ่ายภาพศิลปะลายสัก อ้างทำโปรเจกต์ ก่อนกระทำอนาจาร พฤติกรรมสุดแสบ หลังก่อเหตุพาผู้เสียหายตระเวนเปิดตัวในที่สาธารณะเพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าผู้เสียหายยินยอม หากถูกดำเนินคดี
พนักงานสอบสวนกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ควบคุมตัวนายชาญพิชิต อายุ 41 ปี ครูสอนศิลปะ และช่างภาพนู๊ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ 690/2564 ลงวันที่ 28 ธ.ค. ในฐานความผิดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยบุคคลนั้นไม่อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
โดยจับกุมได้บริเวณ ซ.พระปิ่นเกล้า 15 แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย หลังก่อเหตุชักชวนนางแบบสาววัย 23 ปี ร่วมถ่ายแบบทำโปรเจกต์ภาพศิลปะลายสัก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้นางแบบสาวหลงเชื่อ ไปพบตามนัดหมาย ที่โรงแรมชื่อดังย่านหลานหลวง ก่อนหลอกให้ขึ้นห้องพัก จับมัดมือมัดเท้า และใช้ผ้าปิดตา กระทำอนาจาร หลังจากนั้นตระเวนพาผู้เสียหายไปยังพื้นที่ต่างๆ เช่น รับประทานอาหาร เดินห้างสรรพสินค้า เพื่อป้องกันผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี โดยการพาผู้เสียหายไปเปิดตัวตามที่สาธารณะชน เพื่อให้มีภาพตามภาพวงจรปิด ปรากฏเป็นหลักฐาน ในลักษณะผู้เสียหายสมยอม และให้มีประจักษ์พยาน ทั้งที่ผู้เสียหายไม่เต็มใจไปด้วย แต่จำใจต้องไปเพราะอยู่ในสภาวะจำยอม หวั่นได้รับอันตรายหากขัดขืน
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้ปรึกษากับเพื่อนสนิท จนได้รับการแนะนำให้แจ้งความดำเนินคดี จึงตัดสินใจเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี
หลังสอบปากคำได้ตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา ไม่พบข้อมูลในคดีอาญามาก่อน แต่กลับพบว่าผู้ต้องหาเปิดโรงเรียนสอนถ่ายภาพและวาดภาพ ทำให้เกรงว่าอาจจะมีการก่อคดีล่วงละเมิดลูกศิษย์คนอื่นในอนาคต จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหา โดยศาลอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา ก่อนจับกุมได้วันนี้ภายในโรงเรียน
ด้าน พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส.บช.น. ฝากเตือนหญิงสาว อย่าหลงเชื่อหากมีการชักชวนว่าสามารถผลักดันให้เป็นดารา นางแบบ ถ่ายโฆษณา หรือ ถ่ายภาพศิลปะ เช่น ศิลปะสักลาย อย่างเด็ดขาด และควรตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดรอบด้าน และมีเพื่อนไปด้วยเสมอ ไม่เปิดโอกาสให้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง
ส่วนสภาพจิตใจของผู้เสียหายขณะนี้ ยังอยู่ในภาวะหวาดกลัว ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืนผู้เสียหายตามที่ถูกกล่าวหา แต่เป็นในลักษณะสมยอม.-สำนักข่าวไทย