สโมสรทหารบก 13 ธ.ค.-นายกฯ มอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2564 เชิดชูเกียรติ 63 ผู้นำอุตสาหกรรมไทย หวังผู้ประกอบการฟื้นตัวโดยเร็ว ยันเร่งแก้ปัญหาดูแลทุกมิติ ชี้สร้างโรงงานอุตสาหกรรมต้องฟังประชาชน-อยู่ในกรอบกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2564 (The Prime Minister’s Industry Award 2021) แก่ผู้ประกอบการ 63 ราย ที่มีความเป็นเลิศด้านอุตสาหกรรม ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 29 ที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม เพื่อประกาศเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทุกระดับที่มีความเป็นเลิศในแต่ละด้าน
สำหรับรางวัลอุตสาหกรรมในปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 15 ประเภทรางวัล ได้แก่ รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ในเอสซีจี เคมิคอลส์ ในส่วนรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 9 ประเภท มีผู้ได้รับรางวัล 37 ราย และรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น 5 ประเภท มีผู้ได้รับรางวัล 25 ราย
นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล ยืนยันรัฐบาลมุ่งมั่นส่งเสริมอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับศักยภาพของประเทศ เช่น การส่งเสริมนวัตกรรม วิจัยเกษตรแปรรูป การสรรหาและจัดการวัตถุดิบสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการเพิ่มมูลค่า และรองรับปัญหาคือผลทางการเกษตรที่ผันผวน ตลอดจนต้องหาวิธีการใหม่ๆ ในการลดต้นทุนการผลิต และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถเอสเอ็มอีให้เข้มแข็ง สร้างความรู้ความเข้าใจการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อการลงทุนในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมของประเทศ ให้นำไปสู่การปฏิบัติ ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ในหัวข้อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้สอดรับกับการบริหารจัดการในระบบราชการ ขณะเดียวกัน ต้องหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น รวมถึงต้องใช้ดิจิทัลเข้ามาช่วย แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย เพื่อให้ไทยก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาต้องประสบกับปัญหาโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างรอบด้าน ยืนยันรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าทุกคนจะสู้ จึงคาดหวังว่าสถานการณ์จากนี้จะดีขึ้น ดูจากตัวเลขการท่องเที่ยวและการเปิดประเทศ ซึ่งยืนยันจะดูแลทุกมิติให้มากที่สุด และขอให้ผู้ประกอบการเข้มแข็ง พร้อมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต ซึ่งรัฐบาลได้เยียวยา ยกเว้นข้อกำหนด ลดภาษี พักหนี้ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งยอมรับว่ารัฐบาลก็ลำบาก แต่ต้องดูแลทุกคน แม้ว่ารายได้ของรัฐบาลจะหายไป อีกทั้งรัฐบาลไม่ต้องการเพิ่มภาระ หวังแค่ให้ผู้ประกอบการฟื้นตัวโดยเร็ว กลับมาเป็นเหมือนก่อนช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยรัฐบาลยังสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเข้ามาลงทุนมากขึ้น และให้ผู้ประกอบการพัฒนาขีดความสามารถ ก้าวสู่ระดับสากล อีกทั้งต้องเร่งพัฒนาภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะภาคส่งออก เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการผลิตให้มีแนวโน้มกลับมาขยายตัว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย ต้องอยู่บนพื้นฐานของความรู้ ความสร้างสรรค์ และมีมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้งต้องเป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ ขึ้นอยู่กับประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก
“ไม่ว่าจะสร้างโรงงานอุตสากรรมที่ไหนก็ตาม ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ และเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมในระดับยุทธศาสตร์ (SEA) และการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) ทุกอย่างมีกติกาทั้งสิ้น การปรับเปลี่ยนผังเมืองก็ประชาชนทั้งสิ้น เราไม่สามารถไปกำหนดอะไรได้ โดยที่ประชาชนไม่เห็นชอบ จึงอยากขอให้เข้าใจด้วย ซึ่งรัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ เพื่อให้ครบถ้วนถูกต้อง ความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ แต่ทั้งหมดต้องมีข้อกฎหมายเป็นตัวกำหนด ยืนยันจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด และคิดว่าประเทศกำลังพัฒนาไปสู่แนวทางที่เหมาะสมของทุกภาคส่วน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย