กรุงเทพฯ 8 ธ.ค.-ปลัดสำนักนายกฯ ลงพื้นที่จุดตรวจจับรถควันดำ ขอประชาชนร่วมมือตรวจเช็คสภาพรถ ลดเผาที่โล่ง แก้ปัญหา PM 2.5
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจสอบ ตรวจจับ และห้ามใช้รถควันดำ บริเวณถนนกัลปพฤกษ์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร พร้อมเปิดเผยว่า ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงทั่วประเทศ ทำให้อากาศค่อนข้างนิ่ง ซึ่งทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM 2.5 และสาเหตุส่วนใหญ่มาจากยานพาหนะ รวมถึงการเผาในที่โล่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ไขปัญหา
“ภาพรวมมลพิษอากาศในวันนี้ ที่ภาคเหนือ น่าเป็นห่วงในบางพื้นที่ ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ยังมีคุณภาพอากาศที่ดี แต่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเริ่มน่าเป็นห่วง เนื่องจากอากาศปิดและลมนิ่งสงบ ซึ่งในช่วง 1-2 วันนี้ พี่น้องประชาชนต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ลดการใช้ยานพาหนะ” ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายธีรภัทร กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ทำในหลายมิติ โดยเฉพาะเรื่องการตรวจจับรถควันดำ เป็นการทำงานร่วมกันกับกรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ตรวจภาพรวมทั้งประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา จนถึงเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) ได้ตรวจไปแล้ว 80,000 กว่าคัน และพบว่ามี 18,000 กว่าคันที่เกินมาตรฐาน ซึ่งห้ามใช้ไปแล้ว 213 คัน
“เป็นการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดตามนโยบายของรัฐบาล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งจุดตรวจควันดำตามถนนสายหลักหลายสาย และจะมีโครงการตรวจจุดจอดรถบรรทุกตามสี่มุมเมืองและปริมณฑล เพื่อให้ประชาชนตระหนักว่าการใช้รถควันดำส่งผลต่อสุขภาพได้ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนให้ตรวจเช็ครถยนต์อย่างสม่ำเสมอ” นายธีรภัทร กล่าว
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมทำงานกับหลายหน่วยงานแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ และจะเปิดศูนย์ส่วนหน้าที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้(9 ธ.ค.) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลดการเผาในที่โล่ง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี แต่สิ่งที่สำคัญคือการได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนลดมลพิษทางอากาศให้มากที่สุด ไม่ว่าจากการเผาในที่โล่ง โรงงานอุตสาหกรรม ยานพาหนะต่าง ๆ.-สำนักข่าวไทย