นายกฯ ชวนคนไทยเช็กอิน กระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ

กทม. 6 ธ.ค.-นายกฯ ชวนคนไทยกดเช็กอิน กระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ ลุ้นคนไทยเที่ยวไทยสิ้นปีแตะ 100 ล้านครั้ง สิทธิจองเราเที่ยวด้วยกันเหลือ 1.2 แสนห้องพัก

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นอย่างมาก เพราะจะนำไปสู่การกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการทุกขนาด และการจ้างงานภาคประชาชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แม้ขณะนี้จะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยงต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้ว แต่ยังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะมีจำนวนเพิ่มเป็นหลักหลายล้านคน ดังนั้น การส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทยจึงเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ


โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประมาณการณ์ว่า สิ้นปี 2564 จะมีคนไทยเที่ยวไทย รวม 100 ล้านครั้ง ขณะที่ยอดนักท่องเที่ยวชาวไทย ณ สิ้นเดือน พ.ย. อยู่ที่ 92 ล้านครั้ง รายได้จากการท่องเที่ยวรวมจะประมาณ 6.5 แสนล้านบาท สำหรับมาตรการของรัฐบาล อย่างโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ขณะนี้ (5 ธ.ค.) จำนวนสิทธิที่พักเหลือ 120,273 แสนห้อง จึงขอเชิญชวนประชาชน รีบจองที่พักก่อนจะสิ้นสุดสิทธิในวันที่ 23 มกราคม 2565 ซึ่งจะสามารถใช้สิทธิ์เข้าพักได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวและจุดสนใจที่เกี่ยวข้อง หลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้จัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วยเนื้อหาและรูปแบบที่น่าสนใจ สไตล์คนรุ่นใหม่ เช่น เว็บไซต์ชิลไปไหน (Chillpainai) คลิปภาพยนตร์โฆษณาในรูปแบบ Musical Story ชุด “มาเที่ยวเถอะนะอยากเจอ” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “ยิ่งไป ยิ่งให้ ยิ่งสุขใจกว่าที่เคย” ประกอบด้วยมิติ แหล่งท่องเที่ยวที่งดงาม วิถีชีวิตผู้คน และการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มากไปกว่านั้น ยังมีแอปพลิเคชั่น “เที่ยวเท่ๆ เสน่ห์เมืองไทย” โดยกระทรวงวัฒนธรรม ที่รวบรวมข้อมูลของ 10 สุดยอดต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” แสดงข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อาทิ วัด ศาสนสถาน โบราณสถาน และพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สถานที่สำคัญ และโดดเด่นของท้องถิ่น ร้านอาหารยอดนิยม ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม สินค้าเกษตร และที่พักแบบโฮมเสตย์ รวมถึงจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น ไหว้พระ นั่งรถสามล้อชมสวนเกษตร ล่องแพและแล่นเรือชมธรรมชาติ


นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมรูปแบบการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่ผลิตออกมาได้อย่างน่าสนใจ และได้นำมาบอกเล่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ท่านนายกฯ อยากให้มีการเที่ยวในประเทศให้มาก เพราะจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการมีรายได้ สร้างรายได้แก่ชุมชน ที่สำคัญต้องเที่ยวอย่างปลอดภัยตามวิถีนิวนอร์มอล และในยุคโซเชียลมีเดีย หากนักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพและเช็คอินสถานที่ ก็จะเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ความสวยงาม ศิลปวัฒนธรรม ของประเทศ อีกนัยหนึ่ง ถือเป็นการเผยแพร่ Soft Power ของไทยสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย

ส่วนความกังวลต่อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังการและติดตามการแพร่ระบาด ทุกอย่างทำอย่างเต็มที่ ผู้ประกอบการและประชาชนร่วมกันปฎิบัติตามมาตรการ ” COVID Free Setting ” และ “DMHTT” อย่างที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการท่องเที่ยวไทยปลอดภัย และคนไทยปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว