กรุงเทพฯ 30 พ.ย. – ป.ป.ส. ผนึกกำลังต่างประเทศ กวาดล้างยาเสพติด สกัดกั้นสารตั้งต้นที่พบว่ายังเป็นซูโดอีเฟดรีน ไม่ให้ถูกส่งเข้าแหล่งผลิตในสามเหลี่ยมทองคำ
เมื่อวานนี้ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยนายเจเรมี ดักลาส ผู้แทนสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก หรือ UNODC นายไซม่อน ลาลิค เจ้าหน้าที่อาวุโส สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย หรือ AFP และตัวแทนจากสำนักงานปราบปรามยาเสพติด สหรัฐอเมริกา หรือ DEA ประจำภูมิภาคตะวันออกไกล ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ
นายเจเรมี ผู้แทน UNODC กล่าวว่า การผลิตยาเสพติดจุดสำคัญในประเทศย่านนี้คือบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ รัฐฉาน ประเทศเมียนมา จากนั้นส่งผ่านประเทศไทยไปยังประเทศที่ 3 ยาเสพติดสำคัญคือ ไอซ์ รองลงมาคือ เฮโรอีน แม้บริเวณนี้จะไม่ใช่จุดผลิตเฮโรอีนอันดับ 1 ของโลก แต่มีการขยายตัวของยาเสพติดชนิดนี้ค่อนข้างมาก และส่งออกไปได้ไกลขึ้น
ขณะที่นายไซม่อน เจ้าหน้าที่อาวุโส AFP กล่าวว่า การเสพยาเสพติดในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นถึง 11 เท่า จากข้อมูลทั้งการจับกุมและการสกัดกั้น มีไอซ์จากสามเหลี่ยมทองคำถูกส่งเข้าออสเตรเลียถึง 11 ตัน รวมถึงเฮโรอีน โดยไอซ์ในออสเตรเลียมีราคาตั้งแต่ 80,000-250,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าราคาสูงขึ้น เนื่องการขนส่งที่ลำบากในช่วงโควิด
ด้านนายวิชัย กล่าวว่า ป.ป.ส. ได้ประสานข่าวกับ AFP เป็นระยะ ส่งผลให้เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา AFP จับกุมนักค้าชาวออสเตรเลียรายสำคัญ ซึ่งเป็นเป้าหมาย 1 ใน 14 เป้าหมายรายสำคัญของทางการออสเตรเลีย และหนึ่งในนั้นเป็นสมาชิกกลุ่มมอเตอร์ไซต์นอกกฎหมายที่ชื่อ LEBELS ทั้งยังเป็นตัวการจัดหายาเสพติดจำนวนมากจากไทย และเม็กซิโก ส่งเข้าไปในออสเตรเลีย
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การที่ไทยมีที่ตั้งติดกับแหล่งผลิตยาเสพติดสำคัญในสามเหลี่ยมทองคำ และไทยเป็นศูนย์กลางทางการคมนาคมในอาเซียน ทำให้เอื้อต่อเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติเข้ามาแสวงประโยชน์ใช้ไทยเป็นพื้นที่ลำเลียงผ่านไปยังประเทศที่สาม มีเส้นทางเรือและอากาศจากไทยไปยังออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น แต่สถานการณ์โควิด ทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติใช้วิธีส่งในรูปแบบพัสดุมากขึ้น
สำหรับข้อมูลสารตั้งต้นที่ใช้ผลิตยาเสพติด โดยเฉพาะไอซ์ ในสามเหลี่ยมทองคำ ยังคงเป็นซูโดอีเฟดรีน ปัจจุบันพบว่าถูกนำเข้าจากจีนและอินเดีย.-สำนักข่าวไทย