นครปฐม 19 พ.ย.-ตำรวจนครปฐม รวบคนร้ายใช้ชะแลงงัดตู้เซฟในบ้าน ย่านพุทธมณฑลสาย 4 ได้ทรัพย์สินรวมเกือบ 5 ล้านบาท ผู้ต้องหายอมรับตระเวนก่อเหตุมาแล้วโชกโชน
นายยุทธศักดิ์ งามขำ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ถูกตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จับกุมตัวหลังก่อเหตุงัดตู้เซฟบ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านย่านพุทธมณฑลสาย 4 ขโมยทรัพย์สินประกอบด้วย เงินสด 2 ล้านบาท, ทองคำแท่งน้ำหนักรวม 15 บาท, แหวนเพชร 3 กะรัต รวมถึงพระพุทธรูป และพระเครื่องอีกเกือบ 30 องค์ มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ตำรวจ เปิดเผยว่าคดีนี้ทีมสืบสวนติดตามแกะรอยคนร้าย กระทั่งไปควบคุมตัวได้ที่บ้านพัก เขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ยึดรถยนต์ได้ 2 คัน หนึ่งในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ป้ายแดง นอกจากนี้ยังมีธนบัตรต่างประเทศ, บัตร ATM หลายใบ, นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน, ทองคำพร้อมเครื่องประดับมีค่า และพระเครื่องอีกจำนวนมาก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยใช้รถเก๋งส่วนตัว สวมป้ายทะเบียนปลอม ขับรถตระเวนดูตามหมู่บ้านต่าง ๆ กระทั่งสังเกตว่าหมู่บ้านผู้เสียหาย รปภ. ไม่ค่อยเข้มงวด ตนจึงขับรถเข้าไปในหมู่บ้านดังกล่าว แล้วรอเวลาจนถึงค่ำ ก่อนเดินสำรวจดู แล้วสังเกตเห็นบ้านผู้เสียหายไม่มีคนอยู่ จึงปีนเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว ก่อนใช้ชะแลงที่เตรียมมา งัดตู้เซฟในห้องนอนผู้เสียหาย ใช้เวลาการรื้อค้นทรัพย์สินตลอดคืน พอได้ทรัพย์สินพึงพอใจ นั่งรอเวลาประมาณตี 5 จึงขับรถออกจากหมู่บ้าน ให้ดูเหมือนคนขับรถออกไปทำงานปกติ ระหว่างทาง ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดท้ายทะเบียนโยนทิ้งข้างทาง
ด้าน น.ส.จุฬาลักษณ์ ธนานิตยะอุดม อายุ 23 ปี สะใภ้เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ได้นำกระเช้าของขวัญ มาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายพร้อมทรัพย์สินมาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับให้ข้อมูลว่า บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านของอาอี๊ ซึ่งมีโรงงานกระดาษอยู่ในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ปกติก็จะอยู่โรงงาน ว่างๆ ก็แวะกลับเข้ามาดูบ้าน แต่พอรู้ข่าว คนร้ายเข้าไปงัดตู้เซฟ อาอี๊ก็แทบเป็นลม หลังเกิดเหตุ อาอี๊ เครียดมาก จนล้มป่วย วันนี้จึงไม่ได้มาดูทรัพย์สินด้วยตนเอง เบื้องต้นทรัพย์สินหายไปไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ทั้งทองคำแท่งประมาณ 20 บาท ทองรูปพรรณ แหวนเพชรมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท กำไรข้อมือทอง 2 วง น้ำหนัก 6 บาท แต่ที่เห็นของกลางวันนี้ ยังไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เงินสดยังไม่เห็นเลย
จากการสืบประวัติ ผู้ต้องหา ทราบว่า ก่อเหตุมาแล้วอย่างโชกโชน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ไปลักทรัพย์พระเครื่องที่บ้านในอำเภอเมืองสมุทรสาคร วันที่ 10 ตุลาคม ลักพระเครื่องที่อำเภอเมืองราชบุรี และวันที่ 15 ตุลาคม ขโมยเงินสด 300,000 บาท พร้อมพระเครื่อง จากบ้านย่านเขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับผู้คุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป.-สำนักข่าวไทย