22 ก.ย. – สืบนครบาลรวบ “พลอย” ดาวติ๊กต็อก ฉกทรัพย์สินบ้านแฟนหนุ่ม หนีไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน อ้างถูกบังคับเป็นเมียน้อยบอสชาวไทย
จากกรณีของ “พลอย” สาวสวยดาวติ๊กต็อก ผู้ติดตามกว่า 36,000 คน มีพฤติกรรมลักขโมยทรัพย์สินที่บ้านของชายหนุ่มที่มีความสัมพันธ์กับเธอ จนเป็นที่ปรากฏภาพจากสื่อมวลชนหลายๆ สำนัก เมื่อห้วงปลายเดือน ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 10 ก.ย.67 พนักงานสอบสวน สน.นิมิตรใหม่ ได้ออกหมายจับ น.ส.พลอย ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ, ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์” จากกระแสสังคมที่มีการประโคมข่าวของเธอทำให้เธอหนีหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไร้ร่องรอย ล่าสุดวันที่ 21 ก.ย. 67 เวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ส่งชุดสืบนครบาล นำโดยสารวัตรแจ๊ะ ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกันจับกุมตัวได้ที่ อาคารผู้โดยสารขาเข้า จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว
ในชั้นจับกุม น.ส.พลอยณภัทร ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “เธอประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก เนื่องจากติดพนันออนไลน์ และไม่สามารถยืมเงินของแฟนหนุ่มได้ เนื่องจากตอนนั้นแฟนของตนอยู่ที่ปอยเปต กำลังเข้าไปเปิดบัญชีม้าและคอยแสกนหน้าให้กับกลุ่มมิจฉาชีพอยู่ ตนจึงตัดสินใจเข้าไปขโมยทรัพย์สินในบ้านของแฟนหนุ่มตามที่เห็นจากภาพกล้องวงจรปิด โดยได้ทรัพย์สินไปประมาณ 60,000 บาท จากนั้นได้หลบหนีไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์รูปแบบหลอกให้รักแล้วชวนทำภารกิจดันสินค้าซึ่งไม่มีจริง โดยระหว่างที่อยู่ที่แรกนี้มีเหยื่อที่หลงเชื่อและเริ่มคุยกับตนแล้วประมาณ 10 คน แต่หลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ คดีของตนเกิดเป็นข่าวขึ้นทำให้บอสชาวจีนได้ย้ายตนไปหลบอยู่อีกออฟฟิศหนึ่งทันที
การทำงานที่ใหม่ เป็นรูปแบบการหลอกลวงลักษณะเดียวกับที่แรก แต่เปลี่ยนตัวสินค้าที่ให้เหยื่อทำภารกิจ โดยที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์แห่งที่ 2 นี้ ตนใช้ facebook อวตาร ชื่อ “ก้อย” แค่ตัวเดียว ได้ลูกค้าที่พูดคุยด้วยประมาณ 20 กว่าคน และมีผู้หลงเชื่อให้หลอกจำนวน 1 คน เป็นเงิน 25,000 บาท แต่ตนเห็นคนเก่งๆในแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ สามารถหลอกลวงพยาบาลสาวได้เป็นเงิน 5,000,000 บาท ตนจึงพยายามตั้งใจทำงานมากขึ้นหวังจะได้เงินเยอะๆ แต่เมื่อทำงานไปได้ระยะหนึ่งก็ประสบปัญหา โดย Boss ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นชาวไทยชื่อว่า “แสบ” เข้ามาตีสนิทและบีบบังคับให้ตนเองเป็นเมียน้อย โดยจะให้เงินเดือนเดือนละ 30,000 บาท โดยไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ตนปฏิเสธ จึงถูกไล่ออกทันที
หลังถูกไล่ออกตนได้ไปเข้าทำงานที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์แห่งที่ 3 ซึ่งเรียกกันว่า หลังบ่อตกปลา โดยการหลอกจะเป็นรูปคล้ายเดิม คือหลอกให้รักแล้วชวนลงทุนเทรดหุ้นในเพลตฟอร์มเก๊ ซึ่งท้ายสุดเหยื่อจะถอนเงินออกไม่ได้ ซึ่งทำงานได้เพียง 3 วัน นายต่อแฟนที่เป็นคู่กรณีก็ได้ทักมาบอกว่าสารวัตรแจ๊ะจะไปตามจับให้หลบหนี ซึ่งถัดมาเพียง 2 วัน ก็มีตำรวจมาจับกุมตนจริงๆ ระหว่างเดินทางไปทำงาน โดยช่วงชีวิตที่ผ่านมา 2 เดือนนี้ ตนรู้สึกว่าถลำลึกไปมาก ตอนแรกคิดเพียงว่าจะไปหาเงินสักก้อนหนึ่งเพื่อนำกลับมาชดใช้ ไม่คิดว่าชีวิตจะถลำลึกถึงเพียงนี้ อยากให้ชีวิตตนเป็นอุทาหรณ์ให้กับสังคม ส่วนปัญหาเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นตนคิดว่าคงแก้ไม่ได้ เพราะรายได้ดี อย่างไรก็ล่อตาล่อใจให้คนมาทำได้ง่ายๆ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ในส่วนทางคดีของการลักทรัพย์ จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมติดการพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการตัดสินใจในการก่อเหตุ โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ แต่ที่จะต้องมีการขยายผลต่อไปคือเรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งจากการสืบสวนติดตามตัวห้วงที่ผ่านมา พบข้อมูลพยานหลักฐานสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาให้ข้อมูลจริง ซึ่งเป็นที่น่าตกใจเมื่อพบว่าธุรกิจแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เติบโตและระบาดในประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากนี้จะมีการขยายผลโดยละเอียด และขอยืนยันว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมลผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และหากท่านใดมีเบาะแสสามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ที่ เพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม.” หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.นิมิตรใหม่ ดำเนินคดีต่อไป.-414-สำนักข่าวไทย