นครศรีธรรมราช 12 พ.ย.-จังหวัดนครศรีธรรมราช ฝนยังคงตกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 น้ำจากเทือกเขาเริ่มทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ราบลุ่มชุมชนในเมืองเป็นวงกว้าง
น้ำจากแหล่งต้นน้ำเทือกเขาหลวง อ.ลานสกา ไหลทะลักลงมายังคลองท่าดีทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและเอ่อท่วมตามชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชและอำเภอใกล้เคียง กำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมยุทโธปกรณ์ ลงพื้นที่สำรวจปริมาณน้ำในคลองท่าดี ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากเทือกเขานครศรีธรรมราช และมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค ให้ผู้ประสบภัย และที่หมู่ 8 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช น้ำป่าเอ่อล้นคลองวังมะพร้าว เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยริมคลอง และที่ลุ่มต่ำแล้วจำนวน 50 หลังคาเรือน ส่วนถนนในหมู่บ้านอย่างน้อย 3 สาย ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 50 เซนติเมตร จนรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จุดที่ต้องเฝ้าระวังในขณะนี้ คือ พื้นที่ในเมือง ซึ่งขณะนี้มวลน้ำป่าต้นน้ำคีรีวงบางส่วนไหลไปสู่คลอง 5 สาย ของจังหวัดนครศรีธรรมราช แล้ว ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจปริมาณน้ำเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด ระดับน้ำยังห่างตลิ่งประมาณ 1 เมตร หากปริมาณน้ำเพิ่มเติมขึ้นมา ก็อาจแจ้งเตือนประชาชนอพยพออกจากบ้านเรือน
กู้ภัยเข้าช่วยหญิงใกล้คลอด จ.ชุมพร
นี่เป็นภาพหน่วยกู้ภัยสายชลหลังสวน จังหวัดชุมพร กำลังเดินทางไปให้ความช่วยเหลือหญิงใกล้คลอดในอำเภอทุ่งตะโก อย่างทุลักทุเล และเสี่ยงมาก เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว และท่วมสูงผิวจราจรกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนจากการใช้รถยนต์ยกสูง เป็นเรือท้องแบนเพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือในจังหวัดชุมพร ขณะนี้ถนนสาย 4006 เส้นทางอำเภอหลังสวนไปจังหวัดระนอง บริเวณตำบลวังตะกอ มีน้ำท่วมสูงรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนถนนสายเอเชีย 41 เส้นทางขาขึ้นกรุงเทพมหานคร ระหว่างอำเภอหลังสวน ทุ่งตะโก และ อ.สวี มีน้ำท่วมผิวการจราจรในเส้นทาง ขึ้นกรุงเทพมหานคร ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ทำให้ต้องปิดการจราจรและเปิดใช้เส้นทางการเดินรถได้เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย