ทำเนียบรัฐบาล 12 พ.ย.- “อนุทิน” ระบุ ต้องหารือ ศบค.ชุดใหญ่ ลดขั้นตอนตรวจ RT-PCR นักท่องเที่ยว ขออย่ากังวลตัวเลขผู้ติดเชื้อ เชื่อ แนวโน้มลดลง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแนวทางการลดขั้นตอนเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไม่จำเป็นต้องจองโรงแรม 1 คืน เพื่อรอผล RT-PCR และใช้การตรวจ ATK แทนว่า จะต้องมีการหารือในที่ประชุม ศบค.ก่อน ต้องดูตามเหตุผลถ้าตรวจสอบต้นทาง ที่ตรวจ RT-PCR ยืนยันได้ มีหลักฐานการฉีดวัคซีน ไม่ปลอมแปลง ก็จะอำนวยความสะดวกให้ เกิดความรวดเร็ว แต่จะไม่ละทิ้งความปลอดภัย
ส่วนยังมีจุดใดที่ต้องอุดช่องโหว่หลังเปิดประเทศมาแล้ว 2 สัปดาห์ นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า มาตรการ D-M-H-T ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าปฏิบัติตามมาตรการอยู่ตลอดเวลา ก็ไม่มีปัญหา ซึ่งปัจจุบันพบว่า บางสถานที่มีการตรวจ ATK ก่อนเข้าใช้บริการ ตรงนี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงไปได้เยอะ ทั้งนี้การฉีดวัคซีนไม่ใช่เพียงป้องกัน แต่ยังช่วยลดอาการป่วยหนักและการเสียชีวิต ถ้าอยากใช้ชีวิตปกติมากที่สุด ก็ต้องระมัดระวังป้องกันตัวเอง
สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังทรงตัว นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตัวเลขจะค่อยๆลดลง ขออย่ากังวล แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และมากกว่า 80% ยังไม่ได้รับวัคซีน พร้อมย้ำว่า การฉีดวัคซีนจะช่วยลดอาการรุนแรง บางรายไม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
ขณะที่การฉีดวัคซีนจะถึง 100 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่อย่าพึ่งไปคิดถึงเป้า เพราะวัคซีนมีเพียงพอที่จะทำความปลอดภัยให้กับทุกคนในประเทศ ทุกสัญชาติ ก็น่าจะสบายใจขึ้นรวมไปถึงแรงงานต่างด้าว ซึ่งอธิบดีกรมควบคุมโรค รายงานว่าจับฉีดหมด เพราะเราได้รับวัคซีนบริจาคมาเยอะ และที่เราบริหารจัดการเข้ามาก็เยอะ โดยวันนี้วัคซีนซิโนแวคจากจีนเข้ามา 1.5 ล้านโดส ซึ่งในเวลา 14.00 น. เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนคนใหม่จะเข้ามามอบให้นายกรัฐมนตรี ส่วนสัปดาห์หน้าทราบว่าวัคซีนโมเดอร์นาที่รัฐบาลสหรัฐบริจาคให้ประเทศไทย จะถูกส่งมาคาดว่าจะถึงช่วงต้นสัปดาห์ถัดไป ซึ่งอธิบดีกรมควบคุมโรค ลงนามในเอกสารบันทึกข้อตกลงกับทางการสหรัฐฯ แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีรัฐบาลอื่นอีกหลายประเทศที่แสดงความจำนงมอบวัคซีนให้กับไทย ซึ่งไทยเองถ้าถึงจุดที่วัคซีนเพียงพอ ก็ต้องคำนึงถึงประเทศเพื่อนบ้านประเทศที่มีความลำบาก เพราะหลายประเทศที่เข้าโคแวกซ์ก็ยังไม่ได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วน แต่เป็นเรื่องของอนาคต เพราะต้องดูแลคนในประเทศไทยให้เรียบร้อยก่อน และมีสำรองไว้มากพอแล้ว ก็จะพิจารณาเอาไปช่วยเหลือคนที่มีความต้องการและยากลำบากกว่า.-สำนักข่าวไทย