ทำเนียบรัฐบาล 9 พ.ย.-“สุชาติ” เตรียมเชิญ 5 กระทรวงหลักที่เกี่ยวข้องหารือนำเข้าแรงงาน ขออดทนรอ ลั่นประสาน ”บิ๊กโจ๊ก” ออกหมายจับขบวนการขนแรงงานต่างด้าวแล้ว โทษหนักยึดทรัพย์ ส่งเรื่อง ปปง.
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการแก้ปัญหากรณีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองจำนวนมากภายหลังมีการเปิดประเทศ ว่า ตั้งแต่เดือน มีนาคม63 ไทยห้ามนำเข้าแรงงาน ตามเอ็มโอยู ทำให้หลายกิจการในประเทศได้ปิดตัวลง และผู้ใช้แรงงานได้เดินทางกลับประเทศตัวเอง จะกลับเข้ามาประเทศไทยไม่ได้ เนื่องจากมีการปิดด่านชายแดน แต่วันนี้รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศส่งผลให้กิจการการค้า การท่องเที่ยว ตื่นตัวและมีการฟื้นฟูกิจการขึ้นมา ทำให้ขาดแคลนแรงงาน จึงมีแรงงานพยายามลักลอบเข้าเมืองจนมีการจับกุมได้จำนวนมาก ซึ่งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานไปยังชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีกลุ่มเอ็นจีโอแรงงานข้ามชาติ และทูตชายแดนประสานงานอยู่ ว่าอย่าให้แรงงานต่างด้าวเสียเงินเข้ามาในประเทศไทยในระยะเวลานี้ เพราะหากมาถึงแล้วถูกจับกุมถือว่าเสียเงินเปล่า เพราะไทยจะมีการพิจารณาเอ็มโอยูให้ในเร็ววันนี้
นายสุชาติ กล่าวว่า ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ กระทรวงแรงงานได้เชิญหน่วยงานจาก 5 กระทรวง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงสาธารณสุข เพื่อหารือว่ากระทรวงแรงงานจะนำเข้าแรงงานตามเอ็มโอยู ซึ่งเรื่องนี้มีกระบวนการเป็นขั้นตอน ต้องผ่านการพิจารณาของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีข้อสั่งการมายังตน 1 เดือนแล้ว และมีการหารือใน ศปก.ศบค.และมีการรับหลักการไปเรียบร้อย ซึ่งอยู่ระหว่างรอตกผลึก ก่อนนำเข้าเอ็มโอยูอย่างถูกต้อง ถึงจะเดินทางเข้ามาได้อย่างถูกกฎหมาย ขอให้เชื่อมั่นว่าจะแก้ปัญหาได้จบในเร็วๆ นี้
นายสุชาติ กล่าวว่า วันนี้ไทยมีวัคซีนเพียงพอแล้ว จึงกล้าตัดสินใจจะนำเข้าเอ็มโอยู โดยมีเงื่อนไขกักตัว 14 วัน และก่อนจะครบกำหนดทางกระทรวงแรงงานจะนำวัคซีนในโควตา มาตรา 33 มาฉีดให้กับแรงงานต่างด้าว เพื่อให้เกิดเข้ามาทำงานในประเทศไทยไม่มีการแพร่เชื้อให้กับคนไทย สำหรับผู้ประกอบการที่ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายนั้น กระทรวงแรงงานได้ประสานกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออกหมายจับผู้นำพาและจะนำเข้าสู่กระบวนการของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อทำการยึดทรัพย์ ย้ำเอาจริงเด็ดขาด ขอให้รออีกแค่ไม่กี่วันเอง แค่ 20 วัน หรือไม่ถึง 2-3 สัปดาห์ ก็จะจบกระบวนการในการนำเข้าเอ็มโอยูแล้ว. สำนักข่าวไทย