สกลนคร 5 พ.ย. – กรณีสาววัย 19 ปี ร้องกองปราบฯ อ้างถูกทวงหนี้จากเจ้าหนี้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยสูงหลายราย กลายเป็นหนี้เกือบ 2 ล้านบาท ล่าสุดกลุ่มเจ้าหนี้ พร้อมทนาย เดินทางร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมสกลนคร
วานนี้ (4 พ.ย.) นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความ พร้อมด้วยกลุ่มเจ้าหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากกรณีของ น.ส.ก้อย (นามสมมติ) วัย 19 ปี ชาว อ.พังโคน ที่นายสนธิญา พาร้องกองปราบฯ อ้างว่าถูกทวงหนี้จากเจ้าหนี้ให้กู้นอกระบบ ในอัตราดอกเบี้ยสูงหลายราย และต้องนำเงินไปวนจ่ายให้กับเจ้าหน้าหนี้แต่ละรายจนหนี้ท่วมหลักล้านบาท
ปรากฏว่าอีกด้าน ตัวแทนเจ้าหนี้ 5 คน หอบเอกสารทั้งทางไลน์และเฟซบุ๊กที่พูดคุยยืมเงินกันระหว่าง น.ส.ก้อย เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมสกลนคร เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเจ้าหนี้ที่ให้ยืมเงินนั้นไม่ใช่นายทุนเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหดและทำเป็นขบวนการแต่อย่างใดตามที่มีการนำเสนอข่าวออกไปนั้น แต่เป็นเพราะการตกลงใจของทั้งสองฝ่าย และ น.ส.ก้อย เป็นคนเสนอดอกเบี้ย เพื่อนำเงินไปลงทุนเลี้ยงหมู ปรากฏว่า น.ส.ก้อย มีพฤติกรรมที่น่าสัยอย่างมาก
โดยพฤติกรรมของ น.ส.ก้อย ที่ติดต่อทางโซเซียลไปยืมเงินเจ้าหนี้หลายคนมีพฤติกรรมการพูดคุยเป็นรูปแบบเดียวกัน คือกู้เงินด่วนเพื่อนำไปลงทุนเลี้ยงหมูในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยออดอ้อนเจ้าหนี้แต่ละคน ด้วยความสงสารและดูมีที่ไปที่มาจากที่เขาคุย รวมถึงคลิปเลี้ยงหมูที่ส่งให้กับเจ้าหนี้ทุกคน รวมถึงดอกเบี้ยที่ น.ส.ก้อย ได้เสนอมาอย่างงาม หรือแล้วแต่เจ้าหนี้จะเอาก็ตกลงใจกัน ทำสัญญาส่งกันทางไลน์หรือเฟซบุ๊ก จนมีการโอนเงินให้ น.ส.ก้อย เริ่มจากกู้น้อยๆ ทยอยเป็นงวด จากหลักพันเป็นหลักแสนบาท น.ส.ก้อย ก็รับปากว่าคืนเงินได้ และไม่ได้กู้ไปจ่ายเจ้าหนี้รายใดๆ เลยตัดสินใจให้กู้ รวมทั้งบางเจ้าเห็นว่าเครดิตดี กู้แล้วคืนในยอดต่ำ แต่ยอดสูงก็หายไป ไม่ส่งเงินตามสัญญา พอเป็นข่าวทุกคนถึงกับอึ้งว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการถูกร้องเรียนของ น.ส.ก้อย และรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะฟังความข้างเดียว จึงโพสต์ลงโซเซียลงว่ามีใครบ้างที่โดนก็รวบรวมกันมีประมาณ 10 ราย ในพื้นที่ จ.สกลนคร โดยเจ้าหนี้บางคนต้องไปยืมเงินเพื่อนมาปล่อยกู้ก็มี และยืนยันว่าไม่ใช่นายทุนเงินกู้หน้าเลือดตามที่ถูกกล่าวอ้าง
นอกจากนี้ทางเจ้าหนี้ยังบอกอีกว่า การที่พาทนายความมาวันนี้ไม่ได้ต้องการให้มีการสนับสนุนให้มีการปล่อยดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหนี้ด้วย เพราะสังคมตราหน้าแล้วว่าพวกเขาเหล่านี้ใจร้าย แต่ต้องฟังข้อเท็จจริงอีกด้านว่าสิ่งที่ น.ส.ก้อย ร้องเรียนนั้นไม่ได้มีข้อเท็จจริงทั้งหมด ส่วนในการดำเนินการต้องตรวจสอบโดยละเอียดว่าเข้าข่ายลักษณะฉ้อโกงหรือไม่.-สำนักข่าวไทย