กกต. 2 พ.ย.– กกต.ยืนยันไม่พบชื่อขอจัดตั้งพรรค “ไทยพัฒนา” หลังโลกโซเชียลเผยคนดังร่วมวงเพียบ เปิดกฎหมายผู้ใดทำประชาชนเข้าใจเป็นพรรคการเมืองมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ลูกชาย “ศุภชัย” ยืนยันพ่อยังช่วยงานปชป. ไม่ได้รับนั่งหัวหน้าพรรคไทยพัฒนา
กกต. วันนี้ (2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังมีการเผยแพร่เอกสารการจัดตั้งพรรคไทยพัฒนาในสื่อโซเชียล โดยมีภาพเครื่องหมาย ชื่อย่อ นโยบายของพรรคบางส่วน รวมทั้งรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งปรากฏชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม ทั้งในแวดวงการเมือง นักธุรกิจ ศิลปิน ดำรงตำแหน่งต่างๆ เช่น นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นหัวหน้าพรรค นายวิรไท สันติประภพ นายยืนยง โอภากุล เป็นรองหัวหน้าพรรค นายสุชัชชบวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นเลขาธิการพรรค พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา นางนวลพรรณ ล่ำซำ น.ส.เขมนิจ จามิกรณ์ นายเจษฎาภรณ์ ผลดี เป็นกรรมการบริหารพรรค เมื่อตรวจสอบกับทางสำนักงาน กกต.ที่เป็นผู้รับจดจัดตั้งพรรค ได้รับการยืนยันว่า ไม่มีชื่อพรรคการเมืองดังกล่าวอยู่ในระบบพรรคการเมืองที่กำลังดำเนินกิจการอยู่ โดยชื่อพรรคไทยพัฒนา เคยถูกยื่นขอจัดตั้ง แต่ก็ถูกยุบไปและพ้นระยะเวลา 20 ปี หากมีการยื่นขอจดในชื่อดังกล่าวก็สามารถทำได้ แต่ขณะนี้ก็ไม่พบว่ามีใครมายื่นขอจดตั้งเป็นพรรคการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 32 กำหนดห้ามมิให้ผู้ใด ซึ่งไม่ใช่พรรคการเมืองใช้ชื่อ ชื่อย่อ ภาพเครื่องหมายของพรรคการเมือง หรือถ้อยคำในประการ ที่น่าจะทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นพรรคการเมือง หรือใช้ชื่อที่มีอักษรไทยประกอบว่าพรรคการเมืองหรืออักษรต่างประเทศ ซึ่งแปลหรืออ่านว่าพรรคการเมือง หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 110
ด้านนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะบุตรชายของนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) ยืนยันว่าข่าวที่เกิดขึ้น เป็นข่าวปลอม อย่าเชื่อ อย่าแชร์ และยืนยันว่าข่าวลือที่ว่านายศุภชัย จะไปเป็นหัวหน้าพรรคของพรรคการเมืองใหม่นั้น ไม่มีมูลและไม่เป็นความจริง เพราะนายศุภชัยยังช่วยงานพรรคประชาธิปัตย์และให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจกับพรรคอยู่ และขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว.- สำนักข่าวไทย