น้ำป่าทะลักซัดคอสะพานขาด

จันทบุรี 14 ต.ค. – มวลน้ำป่าทะลักซัดคอสะพานคลองแสลง ถนนสายแสลง-วังแซ้ม ต.แสลง อ.เมืองจันทบุรี เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทติดตั้งป้ายสัญญาณเตือนงดใช้เส้นทาง ขณะที่ ปภ.จันทบุรี สรุปความเสียหายจากอุทกภัยแล้ว 6 อำเภอ 32 ตำบล กระทบแล้วกว่า 5,000 ครัวเรือน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณสะพานคลองแสลง ถนนสายแสลง-วังแซ้ม ด้านหน้าวัดแสลง หมู่ 2 ตำบลแสลง อำเภอเมืองจันทบุรี หลังรับแจ้งว่าถูกมวลน้ำป่าหลากทะลักซัดคอสะพานขาด

จากการตรวจสอบพบสะพานดังกล่าวเป็นสะพานคอนกรีต เชื่อมเส้นทางหลักระหว่างพื้นที่หมู่ 2 กับหมู่ 3 ตำบลแสลง โดยคอสะพานถูกกระแสน้ำซัดขาดพังเสียหายตั้งแต่กลางดึกวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากในพื้นที่เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำสะสมจำนวนมากไหลหลากลงคลองแสลง ก่อนจะเอ่อเข้าท่วมสวนผลไม้ และทะลักกัดเซาะคอสะพานจนขาด

เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบท และชาวบ้านในพื้นที่ ได้เคลื่อนย้ายแท่งแบริเออร์มาวางปิดกั้นเส้นทางช่วงคอสะพานที่ขาด พร้อมทั้งติดตั้งป้ายสัญญาณเตือนงดใช้เส้นทาง

สอบถามนายชัยรงค์ บุญโกย อายุ 62 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่าถนนสายนี้ปกติมีรถใช้สัญจรเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นถนนหลักเข้าสู่ตัวเมือง ยิ่งในช่วงฤดูผลไม้จะมีรถบรรทุกใช้ขนส่งผลผลิต ซึ่งช่วงคืนวันที่ 12 ต.ค. มีฝนตกหนักต่อเนื่องหลายชั่วโมง ทำให้ปริมาณน้ำในคลองไหลแรงและเพิ่มสูงขึ้น ประกอบคอสะพานมีรอยทรุดอยู่ก่อนหน้านี้ และคืนที่ผ่านมามีรถบรรทุกวิ่งผ่าน ด้วยน้ำหนักบรรทุกทำให้พื้นถนนที่ทรุดพังมากกว่าเดิม และมวลน้ำกัดเซาะคอสะพานจนขาดในที่สุด แต่ยังโชคดีที่ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

ขณะที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจันทบุรี สรุปประเมินสถานการณ์เบื้องต้นมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 6 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง อำเภอมะขาม อำเภอแหลมสิงห์ และอำเภอเขาคิชฌกูฏ รวม 32 ตำบล 162 หมู่บ้าน 9 ชุมชน ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 5,000 ครัวเรือน มีน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนโดยรอบเฉลี่ย 1-1.5 เมตร

ด้านนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี แจ้งเตือนชุมชนริมแม่น้ำจันทบุรี หลังเขื่อนท่าระม้ามีปริมาณน้ำเกินกว่าขีดความสามารถที่จะรองรับได้ ดังนั้น อาจทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และบริเวณชุมชนริมน้ำจันทบุรี

สำหรับแม่น้ำจันทบุรีมีต้นกำเนิดจากเขาสอยดาวใต้ ในเขตอำเภอโป่งน้ำร้อน และเขาสามง่าม เขาชะอม ในเขตอำเภอมะขาม ไหลผ่านอำเภอเมืองจันทบุรี ซึ่งจะไหลผ่านชุมชนริมน้ำจันทบูร ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนและชาวญวน ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด

นอกจากนี้ยังไหลผ่านอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งในจังหวัด หลังจากนั้นน้ำในแม่น้ำจะไหลผ่านไปยังทางตอนล่างของจังหวัด และออกสู่อ่าวไทยในอำเภอแหลมสิงห์ โดยมีคลองสาขาต่างๆ ช่วยระบายน้ำเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย