18 ก.พ. – “อัจฉริยะ” อธิบายภาพบาดแผล “แตงโม” เชื่อเป็นภาพใหม่ ยังไม่มีใครเคยเห็น พร้อมตั้งคำถามว่าเรื่องผ่านมา 3 ปี ทำไม “เบิร์ด” แฟนแตงโม ไม่ออกมาเคลื่อนไหว เพื่อปกป้องแตงโมบ้าง เชื่อ DSI คงเรียกมาสอบในฐานะพยานเร็วๆ นี้
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม มีการไลฟ์ผ่านช่อง Youtube ชื่อโคนัน เมืองไทย ระบุว่า จากการตรวจสอบโทรศัพท์ของแตงโม มี 2 เครื่อง เครื่องหนึ่งของแตงโม อีกเครื่องใช้ในนามของพ่อแตงโม ในวันที่ 24 ก.พ. 65 วันนั้นเบิร์ด แฟนหนุ่มของแตงโม อยู่ภูเก็ตกับแตงโม แต่วันที่ 23 ก.พ. 65 กระติกโทรหาแตงโมให้กลับ กทม. เร่งด่วน แตงโมจึงกลับก่อน เบิร์ดกลับตามมาทีหลัง และตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้เบิร์ดไม่เคยทำประโยชน์ใดๆ ให้แตงโม ไม่เคยออกมาให้การหรือพูดอะไรถึงแตงโมเลยว่าอยู่ภูเก็ตทำอะไรกัน และกระติกโทรไปทำไม เอาแต่นิ่งเงียบมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ถ้ามีความเป็นลูกผู้ชายจริงต้องออกมาทำอะไรบ้างเพื่อคนที่รักมากที่สุด แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน DSI ต้องเรียกมาสอบในฐานะพยานแน่นอน และเบิร์ดต้องมาบอกความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับแตงโม เพราะเบิร์ดคือคนรู้เห็นทุกอย่าง
ในวันนี้ตนต้องพูดถึงเบิร์ด เพราะเขารู้จักคนบนรถเรือ ตนได้รับการบอกเล่าจากนายเอ็ก ที่เคยออกรายการทางช่อง 7 คู่หมอพรทิพย์ และแล้วนายเอ็กก็ไปเป็นพยานให้นายปอที่ศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมกับบอกว่า “เบิร์ด จริงๆ แล้วนั้นติดอาหารหวาน” แต่ไม่ขอบอกว่าคืออะไร และที่เบิร์ดอ้างว่าโทรศัพท์หาย อยากรู้ว่าหายเพราะอะไร และเบิร์ดเป็นคนเดียวที่รู้ว่าแตงโมมีกี่เบอร์
หลังจากเกิดเหตุวันที่ 24 ก.พ. แซนไม่ได้แจ้งความ ณ ตอนนั้น ซึ่งโดยปกติต้องแจ้งตำรวจหรือกู้ภัย หรือพ่อแม่ พี่น้อง แต่แซนไม่โทรหาใครเลย โทรหาแต่ตำรวจประมาณ 5 นาย คนแรกชื่อวิชัย แต่ไม่ใช่ผู้การแต้ม ตำรวจคนนี้สนิทกับที่บ้านของแซน เข้า-ออกบ้านได้ คนที่ 2 คือ อา ว.แหวน โทรทั้งวันทั้งคืน โทรตั้งแต่เกิดเหตุยันสว่าง คนนี้อยู่กิน-นอน บ้านเจ้าพ่อเว็บพนัน เป็นมือเก็บเงินให้ตำรวจภูธรภาค 1 และเป็นที่ปรึกษาให้แซน คนที่ 3 เป็นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี โทรมาหาแซน ทั้งที่แซนยังไม่ได้แจ้งความ ตนอยากทราบว่าตำรวจนายนี้เอาเบอร์แซนมาจากไหน คนที่ 4 และ 5 ก็เป็นตำรวจเช่นกัน ส่วนปอติดต่อหานักการเมืองเป็นหลัก ซึ่งข้อมูลพวกนี้ตนเคยทำไปแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน
ส่วนเรื่องบาดแผลของแตงโม หมอนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจไม่ได้ระบุบาดแผลที่ถูกแทงบริเวณข้อพับเข่าซ้ายและเข่าขวา และรูที่เกิดบาดแผลนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษและหมอนิติเวชหลายท่านมีความเห็นว่าแผลน่าจะเกิดจากของแข็งที่คม เป็นลักษณะคล้ายที่เปิดขวดไวน์ เป็นการแทงแล้วดึงออก จนทำให้เกิดก้อนไขมันออกมา แต่หมอนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจไม่ได้ลงความเห็นว่าแผลนี้เกิดจากวัตถุของแข็งที่มีคม แต่กลับเขียนว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากแนวขวางที่เกิดจากใบพัดเรือ ซึ่งที่ไม่ตรงกับบาดแผลจริงที่ปรากฏ ถ้าจะบอกว่าไม่ทราบคงเป็นไปไม่ได้ และในวันขึ้นศาลจังหวัดนนทบุรีตนได้เตรียมหมอนิติเวช และผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธไว้ทั้งหมด 11 ปาก ในการต่อสู้เรื่องนี้.-420-สำนักข่าวไทย