กรุงเทพฯ 4 ก.พ. – นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.สนับสนุนนโยบายรัฐดำเนินการโครงการแลกเปลี่ยนถังก๊าซเหล็กเป็นถังก๊าซคอมโพสิตใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และไม่ได้มีการนำถังก๊าซเหล็กเข้าไปในพื้นที่มาตั้งแต่ปลายปี 2556 เพื่อช่วยลดความรุนแรงของการก่อเหตุระเบิดของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ตามที่ภาครัฐขอความร่วมมือจากผู้ค้ามาตรา 7 ทุกราย โดยประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถนำถังก๊าซเหล็กของ ปตท. มาแลกเปลี่ยนเป็นถังก๊าซคอมโพสิตได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แม้ว่าต้นทุนการผลิตถังก๊าซคอมโพสิตจะสูงกว่าถังเหล็ก ซึ่งที่ผ่านมามียอดการแลกเปลี่ยนถังก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ ปตท.ได้จัดเตรียมถังก๊าซคอมโพสิตไว้สำหรับให้ผู้บริโภคที่ใช้ถังก๊าซเหล็กของ ปตท. ขนาด 7 กิโลกรัม และ 15 กิโลกรัมสามารถนำมาแลกเปลี่ยนเป็นถังคอมโพสิตได้อย่างเพียงพอ
ทั้งนี้ ถังก๊าซคอมโพสิตของ ปตท.ผลิตจากโพลิเมอร์และไฟเบอร์กลาส จึงมีน้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม ทนต่อการกัดกร่อน มีอายุการใช้งานนาน ปลอดภัย และมีคุณภาพได้ตามมาตรฐาน มอก. 2441-2552 โดยถังก๊าซคอมโพสิตที่สามารถผลิตได้ในปัจจุบันมีขนาดบรรจุเพียงขนาดเดียว คือ 11 กิโลกรัม ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยราคาค่าเนื้อก๊าซในถังคอมโพสิตจะเป็นตามปริมาณก๊าซที่บรรจุ คือ 11 กิโลกรัม ซึ่งต่ำกว่าราคาค่าเนื้อก๊าซในถังเหล็กบรรจุก๊าซได้ 15 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคต้องการซื้อถังก๊าซคอมโพสิตไปใช้เพิ่มจะมีค่ามัดจำถัง ซึ่งสามารถรับเงินมัดจำคืนได้ทันทีเมื่อนำถังก๊าซมาคืนเช่นเดียวกับการใช้ถังเหล็ก โดยติดต่อแลกและซื้อถังคอมโพสิตได้ที่ร้านค้าก๊าซหุงต้มของ ปตท. ทุกแห่งในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย