ร้อยเอ็ด 1 พ.ย.- นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด สั่งขยายผล 10 จังหวัด กำชับต้องมีน้ำใจให้ผู้บำบัดเป็นป่วย ควรตรวจสารเสพติดเจ้าหน้าที่เพื่อความมั่นใจ ด้านชาวบ้านแห่ต้อนรับนายกฯ สวมกอด บอก “ตัวจริงสวย” มาก
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเดินทางลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รอให้การต้อนรับ
จุดแรกที่นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และกำหนดเป็นพื้นที่นำร่องทั่วประเทศ ณ วัดบ้านเขวาทุ่ง ตำบลเขวาทุ่ง อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งทันทีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึง ได้รับชมการแสดงจากชาวบ้านในพื้นที่รำประเพณีชวนอ้ายเที่ยวเมืองร้อยเอ็ด และมีตัวแทนชาวบ้านผูกผ้าขาวม้าให้การต้อนรับ
พร้อมฟังการรายงานผลการดำเนินการการแก้ไขปัญหายาเสพติด จากพลตำรวจตรีทรงพลัง บริบาลประสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด สาธารณสุขจังหวัด โดยของบประมาณเพิ่มเติมในการบริหารจัดการ เนื่องจากยังมีบางส่วนที่ไม่เพียงพอ และรับฟังการบูรณการจาก มณฑลทหารบกที่ 21 กองทัพภาคที่ 2
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับประชาชนที่มารอต้อนรับ พร้อมขอนายกรัฐมนตรีถ่ายรูปและสวมกอดอย่างเป็นกันเอว และชมนายกฯ ว่า ตัวจริงสวยมาก
ก่อนที่จะรับมอบพระพุทธรูปปางชนะมาร และรูปหล่อเหมือนหลวงปู่อินทร์ จากพระครูเกษมธรรมะสาคร เจ้าอาวาส วัดเขวาทุ่ง
นางสาวแพทองธาร เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ว่า เสียงแหบนิดนึง ยังไม่ค่อยหายดี ดีใจและเป็นเกียรติที่ได้ติดตามงานต่อจากนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีความจริงจังในการปราบยาเสพติดทั้งประเทศ ซึ่งมีธวัชบุรีโมเดล จังหวัดร้อยเอ็ด และท่าวังผาโมเดล ที่จังหวัดน่าน
อย่างที่บอกปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาพื้นที่ที่หากไม่เอาจริงจะต่อนโยบายอื่นได้ยาก นโยบายยาเสพติดจึงถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่รัฐบาลได้แถลงต่อสภา ทั้งนี้ขอบคุณที่ทำงานอย่างจริงจัง ซึ่งต้องอาศัยแรงกายแรงใจในการแก้ปัญหา ขณะที่คนที่ติดยาเสพติดที่เข้าสู่สังคมตนขอให้กำลังใจ เพราะการตกเป็นทาสยาเสพติดไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยกำลังใจจากสังคม ยืนยันว่า รัฐบาลนี้พร้อมสานต่อนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่อยากให้ลูกหลานโตมากับยาเสพติด โดยเราจะตั้ง 10 จังหวัดนำร่องยกระดับให้เข้มข้นขึ้น ได้แก่ ภาคเหนือ เชียงใหม่ , ภาคกลาง อุทัยธานี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สกลนคร นครพนม ภาคตะวันออก ระยอง และ ภาคใต้ นครศรีธรรมราช ตรัง นราธิวาส
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า นอกจากนี้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ทำในเรื่องของแดชบอร์ด การอัปเดตข้อมูล เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครรับทราบข้อมูลร่วมกัน เข้าถึงข้อมูลได้ จะได้รู้ว่าเราแก้ปัญหาไปถึงจุดไหนแล้ว พร้อมย้ำว่า ยาเสพติดเป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องช่วยกันทำให้หมดไป และหากปัญหายาเสพติดหมดไป จะช่วยแก้ปัญหาเล็กน้อยให้หมดไปด้วย ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงกังวลในเรื่องนี้ด้วย
ส่วนเรื่องของการปราบปราม นายกฯระบุว่า ขอให้ตัดวงจร และเพิ่มประสิทธิภาพการยึดอายัดทรัพย์เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก และคิดว่าจะเป็นการดี เราเองดูแลประชาชน แล้วเราต้องดูแล ข้าราชการที่ทำงานด้วย เมื่อถึงจุดนั้นอยากให้มีการตรวจเช็กข้าราชการด้วย ไม่ใช่การไม่ไว้ใจ แต่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ดีว่าคนทำงานไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ประชาชนจะได้ไว้ใจคนที่เข้าไปปราบปราม ดูแล บำบัด
ส่วนเรื่องของการบำบัดมี ปปส. องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มหาดไทย (มท.) ตำรวจ ทหาร คอยดูแล และขอให้เร่งพิจารณาสถานพยาบาล และการเปิดศูนย์บำบัด อยากให้ย้ำเสมอว่า ขอให้ใจดีกับผู้รักษา เพราะกำลังใจเท่านั้นทำให้ผู้บำบัดเดินออกไปอย่างสง่างาม และขอย้ำในเรื่องของการฝึกอาชีพที่รัฐบาลอยากจะดูต่อเนื่องให้ผู้บำบัดมีอาชีพอย่างจริงจัง
สุดท้ายขอเน้นย้ำว่ารัฐบาลจริงจังกับการแก้ปัญหา ให้หมดไปทั้งประเทศ และให้ปัญหายาเสพติดลดลง 90% เป็นพื้นที่สีขาวในทุกพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายเสร็จสิ้น รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ตอบรับว่าจะตรวจสารเสพติด ตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปถึงข้าราชการในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมด
ก่อนที่นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางต่อไปยัง ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ตำบลโพธิ์สัย อำเภอศรีสมเด็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกรัฐมนตรี ให้รถยนต์หมายเลขทะเบียน Lexus สีบรอนซ์เงินหมายเลขทะเบียน 5 ขส 45 กรุงเทพมหานคร ในการเดินทางปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด .314.-สำนักข่าวไทย