ยะลา 6 ก.พ.-ตลาดจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องการ “นมแพะ” จำนวนมาก แต่ผู้เลี้ยง “แพะนม” กลับมีจำนวนน้อยมาก เนื่องจากทดลองเลี้ยงแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ ช่วงนี้จะพาไปดูเกษตรกรดีเด่นที่ จ.ยะลา ซึ่งเลี้ยงแพะนม สร้างรายได้ดีมานานกว่า 20 ปี
แพะนมพันธุ์ซาแนนจำนวนกว่า 70 ตัว ของเกษตรกรมะ อาแด วัย 56 ปี ถูกเลี้ยงไว้ภายในโรงเรือนที่บ้านปายอ ม.2 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา โดยสมาชิกในครอบครัวช่วยกันเลี้ยง ด้วยประสบการณ์เลี้ยงแพะมานานกว่า 20 ปี ทำให้เขาเข้าใจลักษณะนิสัยของแพะ ว่าเป็นสัตว์รักสะอาด และไม่ชอบอากาศร้อนชื้นในภาคใต้ จึงต้องเลี้ยงไว้ในโรงเรือน โดยไม่ปล่อยให้ออกมากินหญ้าข้างนอก ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการป่วย และทำให้แพะมีปริมาณน้ำนมมากขึ้น หากมีสุขภาพดี โดยให้กินหญ้าเนเปียร์ สลับกับใบกระถิน และเสริมโปรตีนด้วยกากถั่วเหลือง
เกษตรกรมะ จะให้ความใส่ใจกับการดูแลสุขภาพแพะมาก ซึ่งได้เลี้ยงแบบแยกคอก เพื่อให้ดูแลได้อย่างทั่วถึง และยิ่งช่วงหลังฤดูฝนแบบนี้ ยิ่งต้องให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษ
ช่วงฤดูฝนแพะมักจะป่วยง่าย ต้องเปิดไฟนีออนทั้งคืน สร้างความอบอุ่น เขาบอกว่า เนื้อแพะและนมแพะเป็นที่ต้องการของตลาดในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาก แต่มีผู้เลี้ยงน้อย การเลี้ยงแพะนมจึงเป็นโอกาสสร้างเงินได้อย่างดี แต่ละวันสามารถรีดนมแพะได้ประมาณ 30 กก. จำหน่ายกิโลกรัมละ 80 บาท นอกจากจะส่งจำหน่ายให้ลูกค้าประจำแล้ว ยังเป็นที่ต้องการของผู้ป่วยด้วย เพราะนมแพะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
การเลี้ยงแพะนมจะมีรายได้รายวันจากการขายนมเฉลี่ยวันละ 2,400 บาท มีรายได้รายเดือนจากการขายมูลเฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท และมีรายได้รายปีจากการขายแพะ เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ขณะที่ต้นทุนค่าซื้อกากถั่วเหลืองเป็นอาหารเสริมเพียงวันละ 17 บาทเท่านั้น ส่วนหญ้าเนเปียร์อาหารหลักก็ปลูกเองบริเวณข้างโรงเรือน ปัจจุบันเกษตรกรมะ ได้เปิดศูนย์การเรียนรู้ พร้อมเผยแพร่แนวทางสร้างเงินด้วยการเลี้ยงแพะ.-สำนักข่าวไทย