กทม.6 ก.พ.- การประชุมร่วมกันระหว่าง ตำรวจ ปส.,เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และ ป.ป.ง. เพื่อสรุปผลการปฏิบัติตามแผนชัยยะสยบไพรี 60/2 ในการทลายเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดระดับอาเซียน
3 หน่วยงานที่ร่วมประชุม ประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส., สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. เกี่ยวกับผลการปฎิบัติตามแผนชัยยะสยบไพรี 60/2 ทั้งหมด 39 เป้าหมาย 41 จุดตรวจ มีผู้ต้องหาตามหมายจับ 9 คน สามารถจับได้ 3 คน
พลตำรวจตรีพรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการ ปส. เปิดเผยว่า วันนี้(6 ก.พ.)จะหารือข้อสรุปเกี่ยวกับปฏิบัติการที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาเป้าหมายที่ต้องดำเนินการต่อ รวมถึงทรัพย์แต่ที่ตรวจยึดมาเพื่อเสนอ ป.ป.ส.พิจารณาอายัดไว้ต่อไป นอกจากนี้ยังจะพิจารณาเรื่องบุคคลที่จะเชิญมาให้ปากคำเพิ่มเติม ทั้งบุคคลที่ปรากฏในข้อมูลการสืบสวนและข้อมูลทางสื่อมวลชน เช่น ดารา,ไฮโซ ในจำนวนนี้รวมถึงนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ที่เข้าให้ปากคำไปแล้วเบื้องต้น แต่พบว่าข้อมูลที่ให้การยังมีความขัดแย้งกับข้อมูลของตำรวจ ส่วนประเด็นรถแลมโบกินี รุ่นกัลกาโด สีเทาดำ ที่ต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวพันกับทรัพย์สินเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา รู้แล้วว่าซื้อมาจากเต็นท์รถแห่งหนึ่ง ประเด็นนายอัครกิตติ์ อ้างว่า ได้ขอยืมจากนายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย เครือข่ายยาเสพติดนายไซซะนะ จำนวน 6,000,000 บาท มาดาวน์รถแลมโบกินี่ แต่กลับพบว่านายณัฐพล โอนเงินให้นายอัครกิตติ์ 300,000 บาท ทุกเดือน หลังซื้อรถคันดังกล่าวนั้น ไม่ขอบอกในรายละเอียดเพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน กรณีปรากฎภาพตำรวจหลายนาย ถ่ายภาพคู่นายไซซะนะ ที่มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชียล อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการฝ่ายสืบสวน ซึ่งยังไม่มีรายงานสรุปขึ้นมา และกรณีนายไซซะนะ ถ่ายภาพคู่กับบุคคลมีชื่อเสียงหลายคน ต้องพิจารณาข้อมูลทางการสืบสวนประกอบด้วย หลังจากนี้จะเชิญ กรมการขนส่งทางบกมาร่วมพิจารณาเกี่ยวกับรายละเอียดของทะเบียนรถ เพื่อให้เกิดความกระจ่างว่ามีการสวมทะเบียนหรือนำมาใช้ในรูปแบบใดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับหญิงชาวลำพูนที่ถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของทะเบียนรถ เนื่องจากอาจไม่ทราบว่าถูกนำทะเบียนรถมาใช้ในกรณีดังกล่าว
พลตำรวจตรีพรชัย กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุม เอ๋ เจ็อเสมียน หนึ่งใน 6 เป้าหมายเครือข่ายนายไซซนะ ในจังหวัดราชบุรี ที่ถูกออกหมายจับก่อนนหน้าและผู้ค้ารายใหญ่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อทลายเครือข่ายนี้ให้หมดไป.-สำนักข่าวไทย
