ทำเนียบรัฐบาล 30 ก.ย.- นายกฯ เป็นประธานการประชุม ศบศ. เห็นชอบโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs และแนวทางขับเคลื่อนการเปิดประเทศด้านการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐ เล็ง ประกาศส่งเสริมท่องเที่ยว 2565 Amazing ยิ่งกว่าเดิม พร้อมเร่งพลิกโฉมประเทศไทย รองรับเศรษฐกิจหลังโควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ครั้งที่ 4/2564 ผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจ โดยขณะนี้เร่งแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมที่เข้ามาซ้ำเติม เพื่อผ่อนคลายความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการนโยบายเศรษฐกิจ ทั้งมาตรการเยียวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบทั้งนายจ้างและลูกจ้าง มาตรการการเงินเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูภาคธุรกิจ ผ่านโครงการสินเชื่อฟื้นฟู และโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ รวมถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว “Phuket Sandbox” เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ กระตุ้นการใช้จ่าย ทำให้สามารถผลักเม็ดเงินเข้าสู่ระบบช่วยพยุงเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน รัฐบาลเน้นการรักษาการจ้างงานและมาตรการการจ้างงานใหม่ เพื่อแก้ปัญหาการว่างงาน ทดแทนปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรม และยังไม่มีการอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ ขณะเดียวกัน ก็ต้องการเห็นคนไทยมีงานทำ โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมที่ทันสมัย เพื่อรักษาระดับการจ้างงานให้ธุรกิจเอกชนด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวว่า ต้องดำเนินมาตรการอย่างต่อเนื่อง ตรงความต้องการของภาคเอกชน ผู้ประกอบการ รัฐบาลก็ต้องหาทางสร้างรายได้เพิ่มขึ้นด้วยรูปแบบและแนวทางใหม่ๆ เน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การท่องเที่ยวปลอดภัยในประเทศไทย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเดินทางลงพื้นที่ต่อเนื่องว่า พบเห็นประชาชนลำบาก ทำให้รัฐบาลต้องเร่งทำงานให้ดีขึ้น ทั้งการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ยกระดับฝีมือแรงงาน รวมทั้งปลดล็อกกฎหมายที่ล้าหลัง โดยเฉพาะโลกหลังยุคโควิด-19 จะมีการแข่งขันกันอย่างสูง จึงอยากฝากให้ทุกส่วนราชการช่วยกันหาแนวทางใหม่ๆ ต้องไม่ใช้ประโยชน์จากมาตรการรัฐในรูปแบบเดิม เช่น การจ่ายเงิน การเยียวยา ทั้งนี้ ประชาชนต้องได้รับประโยชน์มากขึ้น สามารถพึ่งพาตนเอง วันนี้นายกรัฐมนตรีต้องการพลิกโฉมประเทศไทยทุกมิติ หลายอย่างที่รัฐบาลดำเนินการวันนี้ ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิม และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล อาจจะไม่เห็นผลทันที แต่จะส่งผลระยะยาวเพื่อให้ประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ศบศ.วันนี้ (30 ก.ย.) ได้มีมติเห็นชอบหลักการโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มธุรกิจ พร้อมเห็นชอบหลักการแนวทางการขับเคลื่อนการเปิดประเทศด้านการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐ โดยการขยายผลและพลิกโฉมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก รวมทั้งแนวทางการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อใช้ในการพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย และการประกาศส่งเสริมท่องเที่ยว 2565 Amazing ยิ่งกว่าเดิม (Visit Thailand 2022 Now Even More Amazing Thailand Has It All).-สำนักข่าวไทย.