นครราชสีมา 6 ก.ย. – หนุ่มโคราชสมัครเล่นเกมพนันออนไลน์ ทางแอปพลิเคชันในมือถือ งง! อยูดีๆ เจอหมายเรียก 4 หมาย คดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 2.6 ล้านบาท
นายธีรศักดิ์ อายุ 22 ปี ชาวบ้านตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา พร้อมทนาย หอบหลักฐานแจ้งผู้สื่อข่าว หลังงุนงงกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน กรณีถูกออกหมายเรียก 4 สถานี จำนวน 4 หมายเรียก คดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 2.6 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่รู้อะไร
นายธีรศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า ต้นเหตุน่าจะมาจากตนสมัครเล่นเกมพนันออนไลน์ ทางแอปพลิเคชันในมือถือ มีการกรอกข้อมูลส่วนตัว เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด และบัญชีธนาคาร หลังเล่นด้วยความเพลิดเพลิน ไม่ได้เล่นเอาจริงเอาจัง ปรากฏว่าอยู่ดีๆ มีหมายเรียกจากสถานีตำรวจมาถึงบ้าน กล่าวหาว่าตนไปร่วมกันฉ้อโกงเงินประชาชน เพราะมีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง เมื่อไปตรวจสอบที่ธนาคาร ปรากฏว่ามียอดเงินโอนเข้าและถอนออกจากบัญชีตลอดเวลา มีการทำรายการภายใน 2 วัน มากถึง 611 ครั้ง ยอดเงินเข้าบัญชีและถอนออกจากบัญชีอย่างรวดเร็ว รวม 2,590,545 บาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก ทางธนาคารจึงปิดแอปพลิเคชันบัญชีธนาคารในมือถือให้ เพื่อระงับการรับโอนเงิน เพราะไม่รู้ที่มาของจำนวนเงินมากมาย จากนั้นจึงนำหลักฐานทั้งหมดไปแสดงความบริสุทธิ์ใจที่สถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว และประสานทนายความมาให้ความช่วยเหลือ
ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบเชิงลึกพบว่าบัญชีธนาคารของนายธีรศักดิ์ ถูกนำไปใช้ในแอปพลิเคชันปล่อยกู้เงินด่วนในโทรศัพท์มือถือ โดยมีเงื่อนไขต้องหักค่าธรรมเนียม 15% ของยอดเงินกู้ ปรากฏว่ามีผู้หลงเชื่อยอมโอนเงินค่าธรรมเนียมเข้ามาในบัญชีจำนวนมาก แต่ไม่ได้รับยอดเงินกู้จริงๆ เป็นการเปิดแอปพลิเคชันหลอกลวงประชาชน กระทั่งมีผู้เสียหายจากหลายพื้นที่ไปแจ้งความ และตำรวจมีการออกหมายเรียกนายธีรศักดิ์ เจ้าของบัญชี ไปสอบปากคำ เบื้องต้นสันนิษฐานว่านายธีรศักดิ์ถูกแก๊งมิจฉาชีพแฮกข้อมูลบัญชีธนาคาร และแฮกรหัสถอนเงินด่วนในแอปพลิเคชันธนาคารในโทรศัพท์มือถือโดยไม่รู้ตัว หลังจากนี้จะนำหลักฐานทั้งหมดไปปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางแก้ปัญหาที่ตนเองไม่ได้ทำต่อไป.-สำนักข่าวไทย