นครศรีธรรมราช 6 ก.ย.- ผอ.รพ.สิชล เล่าประเด็นการผ่าตัดเนื้องอกในรังไข่ของหญิงสาววัย 17 ที่พบทั้งผม กระดูก เล็บ ฟัน ซึ่งนั่นเกิดจากโรคถุงน้ำรังไข่ที่เซลล์เจริญเติบโตผิดที่ ไม่ใช่ไสยศาสตร์แต่อย่างใด
เหตุการณ์นี้เปิดเผยในเฟสบุ๊กส่วนตัว Arak Wongworachat ของ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยได้โพสต์คลิปและภาพ คุณหมอเล่าถึงการรักษาผ่าตัดเนื้องอกขนาดใหญ่ในรังไข่ของหญิงสาวอายุ 17 ปี ได้สำเร็จ เมื่อตรวจสอบก้อนเนื้องอก พบมีขนาดใหญ่ประมาณ 12 ซม. สีดำคล้ำ เป็นก้อนรังไข่ที่ขั้วบิดพันกัน 3 รอบ จนก้อนเนื้อขาดเลือดไปเลี้ยง มีบางส่วนของก้อนเยื่อหุ้มเริ่มปริแตกมีเลือดซึมไหลออกมา และมีน้ำเหลือง เลือดในอุ้งเชิงกรานประมาณ 100 cc จึงรีบตัดเอาก้อนเนื้อออก และตรวจสอบรังไข่อีกข้าง ตัวมดลูกยังปกติจึงทำความสะอาด และเย็บปิดแผลใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 30 นาที
นพ.อารักษ์ ยังเล่าอีกว่า เมื่อเอาก้อนเนื้อดังกล่าวมาผ่าดู กลับพบว่ามีเส้นผมเป็นกระจุกเต็มก้อนผสมกับไขมัน เศษกระดูกอ่อน เล็บและฟัน ซึ่งทีมแพทย์ยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนไข้คนนี้ เกิดจากโรคถุงน้ำรังไข่ที่มีเซลล์ที่สามารถเจริญเติบโตไปเป็นเส้นผม เล็บ ฟัน ไขมัน แต่อยู่ผิดที่ จึงไม่ใช่เรื่องของไสยศาสตร์แต่อย่างใด
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นพ.อารักษ์ โดยกล่าวว่า กรณีที่มีการพบเป็นเส้นผม, เล็บ, ไขมันและฟันในก้อนเนื้อนั้น มันเกิดจากเซลล์ต้นกำเนิดที่เจริญเติบโตสร้างเป็นเล็บ เป็นฟันหรือไขมันต่างๆ แต่กรณีนี้เซลล์ไปอยู่ผิดที่ตั้งแต่กำเนิด ตนเคยเจอประเภทมีกระดูกเป็นแท่งๆ เหมือนเป็นแขนหรือขา ที่ รพ.สิชลโดยปีหนึ่ง เราจะเจอ 2-3 ราย แต่ลักษณะที่เจอแบบนี้เพราะมาตรวจโรคอื่นและซาวน์เลยเจอ แต่กรณีนี้มาเพราะมีอาการแทรกซ้อนอาการแทรกซ้อนที่สำคัญของเนื้องอกในรังไข่ ก็คือขั้วบิดพันกันทำให้ตัวเนื้องอกตายเพราะขาดเลือด จากนั้นอาจจะแตก หรือติดเชื้อ หากทิ้งไว้นานจะกลายเป็นมะเร็ง
ผอ.รพ.สิชล กล่าวในตอนท้ายว่าในเรื่องของความผิดปกติของร่างกายในสิ่งเหล่านี้ ที่ประชาชนยังไม่ทราบว่ามาได้อย่างไรไม่ใช่เป็นเรื่องเก่าๆ แต่เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์หากใครพบว่าท้องโตมากกว่าปกติหรือปวดท้อง แนะนำให้ไปตรวจ เพราะผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ุที่ปวดประจำดือนอย่ามมองว่าเป็นเรื่องปกติ ให้ไปตรวจเราอาจจะพบสิ่งผิดปกติและได้รีบรักษาจะดีกว่า.-สำนักข่าวไทย