ลิมา 12 ก.ย. – นายอัลแบร์โต ฟูจิโมริ อดีตประธานาธิบดีเปรูเชื้อสายญี่ปุ่น ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็ง ขณะอายุได้ 86 ปี หลังมีอาการป่วยหนักจากหลายโรครุมเร้า ทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เสมอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
นางเคอิโกะ ฟูจิโมริ นักการเมืองชาวเปรูที่เป็นบุตรสาวคนโตของนายฟูจิโมริโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น โดยมีบุตรคนอื่นร่วมลงชื่อว่า บิดาถึงแก่อสัญกรรม หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมานาน เธอเคยแจ้งเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า บิดาคิดจะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2569
นายฟูจิโมริเป็นลูกของชาวญี่ปุ่นที่อพยพมายังเปรู เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอย่างเหนือความคาดหมายในปี 2533 และได้เร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายเปิดตลาดเสรี เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อสูงมาก จนได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย ต่อมาได้กลายเป็นรัฐบาลเผด็จการด้วยการร่วมกับกองทัพยึดอำนาจการปกครองของตนเองในปี 2535 จากนั้นได้รับเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในปี 2538 และสมัยที่ 3 ในปี 2543 ท่ามกลางเสียงครหาเรื่องโกงการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากชนะเลือกตั้งสมัยที่ 3 ได้ไม่นาน นายฟูจิโมริได้หนีไปลี้ภัยที่ญี่ปุ่น เนื่องจากรัฐบาลของเขามีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตอย่างกว้างขวาง และการใช้กำลังปราบปรามกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรง ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างหนัก ต่อมาเขาถูกจับกุมที่ชิลีในปี 2548 และถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาที่เปรู
ศาลเปรูตัดสินจำคุก 25 ปีในปี 2552 ในข้อหาทุจริตและละเมิดสิทธิมนุษยชน ต่อมาได้รับการอภัยโทษครั้งแรกเมื่อปี 2560 แต่ก็ถูกศาลฎีกาเพิกถอนในอีก 2 ปีถัดมาทำให้ต้องกลับเข้าคุกอีกครั้ง ก่อนได้รับการอภัยโทษครั้งที่สองเมื่อเดือนธันวาคม 2566 เนื่องจากป่วยหลายโรค ทั้งโรคแผลในกระเพาะอาหาร ความดันโลหิตสูงและมะเร็งที่ลิ้น ต่อมาเขาแจ้งเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ว่า ตรวจพบมะเร็ง.-816(814).-สำนักข่าวไทย