นนทบุรี 14 ก.พ.-บุ๋ม ปนัดดา เข้าแจ้งความจับชายชาวต่างชาติ โพสต์ขู่ฆ่าทางเฟซบุ๊ก
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 14 ก.พ.60 ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ดร.ปนัดดาหรือบุ๋ม วงศ์ผู้ดี นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง พร้อมด้วย นายนิติกานต์ โพธิ์ประยูร โปรดิวเซอร์รายการแรงชัดจัดเต็ม นายธนวุฒิ สกุลเทอดเกียรติ นิติกรบริษัทไบรท์ทีวี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ยศวิน เอี่ยมพุ่ม รองผกก.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชายชาวต่างชาติที่โพตส์เฟซบุ๊กชื่อว่า Zulqarnaim Raja Haider ขู่ฆ่าเอาชีวิตพร้อมมีอาวุธปืนหลายชนิดวางอยู่ในภาพดังกล่าว
ดร.ปนัดดา หรือบุ๋ม วงศ์ผู้ดี เปิดเผยว่าสาเหตุที่เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด เนื่องจากทางรายการแรงชัดจัดเต็มได้เชิญผู้ชายคนนี้มาออกรายการ เนื่องจากทางรายการมีรูปแบบหาประเด็นที่เป็นจุดสนใจของสังคม เน็ตไอดอลบ้าง ส่วนผู้ชายคนนี้ที่เชิญมาออกรายการเพราะมีประเด็นที่เขาจะแจกรถซุปเปอร์ไบค์ฟรี ทางรายการจึงจะดูว่าเขาแจกจริงหรือเปล่า และทางรายการมีการตัดเรื่องที่เขาพูดถึงไซซะนะออก แต่เรื่องไม่จบหลังออกอากาศเพราะเขาพยายามเกาะกระแสต่อมาเรื่อยๆ มีการขึ้นเฟซและแชร์ต่อๆ ไปอย่างรวดเร็ว ส่วนที่มาแจ้งความในวันนี้เพราะเขาโพสต์ภาพที่มีรูปเขาพร้อมอาวุธและขู่ฆ่า จึงได้ตอบโต้ไปด้วยถ้อยคำที่รุ่นแรง เพื่อให้เขาออกมาโพสต์อีกจะได้ติดตามตัวเขาได้ว่าอยู่ที่ไหน ตนเองต้องขอโทษด้วยที่ใช้ข้อความรุนแรงออกไป แค่ต้องการกระตุ้นให้เขาออกมา เขาก็ออกมาจริงๆ รายการแรงชัดจัดเต็ม ตนเองเป็นแค่พิธีกร ส่วนการเชิญแขกมาออกรายการเป็นหน้าที่ของโปนดิวเซอร์จึงต้องเดินทางมาแจ้งความด้วยพร้อมทีมกฎหมายของสถานี
นายนิติกานต์ โพธิ์ประยูร โปรดิวเซอร์รายการแรงชัดจัดเต็ม กล่าวว่า ทางผู้ชายคนนี้มีการโพสต์แบบน่าสนใจ จึงได้เชิญมาเพราะอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน แจกรถจริงไหม เป็นการสร้างภาพหรือเปล่า ซึ่งรายการวันนั้นออกอากาศวันที่ 23 มี.ค.59 และผู้ชายคนนี้บอกว่าทางรายการมีการตัดต่อเรื่องไซซะนะออก แต่ตอนที่อัดรายการเป็นปี 59 ซึ่งยังไม่มีเรื่องไซซะนะเลย ยังไม่รู้จัก
สำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ อ้างว่าเป็นคนสัญชาติอเมริกา มีเชื้อชาติปากีสถาน และเคยเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ที่ จ.นครราชสีมา ทาง ดร.ปนัดดา ยืนยันว่าไม่รู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อนและวันที่ออกรายการไม่มีการพูดคุยเรื่องไซซะนะ สำหรับการมาแจ้งความในวันนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวชายคนนี้มาดำเนินคดี ยืนยันว่าจะไม่มีการยอมความและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จะมีการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและประสานทาง อปท.เพื่อสืบหาเบาะแสของชายดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย