สำนักงานสภาพัฒนาการเมือง 17 พ.ย.-สพม.เผยผลสำรวจประชาชนต่อการจัดทำร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ พบส่วนใหญ่เห็นด้วยให้เซ็ตซีโร่พรรคการเมืองและกกต.
นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง(สพม.) แถลงรายงานผลการสำรวจความเห็นและการรับฟังความเห็นต่อการจัดทำ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.โดยสำรวจความเห็นในเดือนพฤศจิกายนจาก 3 ส่วน ประกอบด้วย1.กลุ่มตัวอย่างหรือโพลจำนวน 7,515 คน 2.คณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคมระดับกลุ่มจังหวัด(คปก.) ในภาคต่าง ๆ จำนวน 1,150 คน 3.สนทนากลุ่มหรือโฟกัสกรุ๊ปจำนวน 12 คน ซึ่งมาจากพรรคการเมือง นักวิชาการ โดยจะนำข้อเสนอดังกล่าวส่งถึงกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป
นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ผลการสำรวจความเห็นประชาชนใน10 ประเด็น โดยประเด็นสำคัญ ๆ อาทิ เรื่องการเซ็ตซีโร่กกต.ชุดปัจจุบัน และให้สรรหาใหม่ให้ครบตามจำนวนที่กำหนดในรัฐธรรมนูญใหม่ และควรกำหนดให้กระทรวงมหาดไทยมีส่วนร่วมบริหารจัดการการเลือกตั้งเพื่อสนับสนุนการทำงานและลดภาระของกกต. โดยพบว่าประชาชนร้อยละ 68.50 เห็นด้วยกับการให้กระทรวงมหาดไทยมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเลือกตั้ง เพื่อเป็นการสนับสนุนงานทำงานและลดภาระของ กกต. และเห็นด้วยกับการเซตซีโร่กกต.71.8
“ส่วนคปก.เห็นด้วยกับการเซ็ตซีโร่ กกต.ชุดปัจจุบัน และให้สรรหาชุดใหม่ แต่ไม่เห็นด้วยกับการให้กระทรวงมหาดไทยร่วมจัดเลือกตั้ง ด้านโฟกัสกรุ๊ปพรรคการเมือง ไม่เห็นด้วยกับการเซ็ตซีโร่ กกต.แต่ควรปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังไม่เห็นด้วยที่กระทรวงมหาดไทยจะมีส่วนร่วมจัดการเลือกตั้ง เพราะจะเกิดปัญหาทับซ้อนของอำนาจ” นายธีรภัทร์ กล่าว
นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นการเซ็ตซีโร่พรรคการเมืองในปัจจุบันให้สิ้นสภาพเมื่อประกาศใช้พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับพรรคการเมืองฉบับใหม่ พบว่าประชาชนร้อยละ75.08 เห็นด้วยกับการเซ็ตซีโร่พรรคการเมืองเช่นเดียวกับคปก. แต่อีกกลุ่มตัวอย่างหนึ่งเห็นว่าปัญหาทางการเมืองไม่ได้มีสาเหตุจากพรรคการเมืองเพียงอย่างเดียว
“ปัญหาของพรรคการเมืองไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเซ็ตซีโร่เท่านั้น ทั้งยังส่งผลให้ระบบพรรคอ่อนแอส่วนความเห็นจากโฟกัสกรุ๊ปไม่เห็นด้วยกับการเซ็ตซีโร่พรรคการเมืองปัจจุบัน เพราะทำให้ถอยหลังกลับ แต่ควรพัฒนาพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันทางการเมืองและเกิดเป็นพรรคของประชนชนอย่างแท้จริง” นายธีรภัทร์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย