“พล.อ.ประวิตร” มอบ กอนช. ประเมินสถานการณ์ป้องกันน้ำท่วม

4 ส.ค.-“พล.อ.ประวิตร” มอบ กอนช. ประเมินสถานการณ์ป้องกันน้ำท่วม ลดผลกระทบกับประชาชน

วันนี้ 4 สิงหาคม 2564 พลเรือเอก พิเชฐ ตานะเศรษฐ คณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. สั่งการให้ทุกหน่วยงานภายใต้ กอนช. ติดตามประเมินสถานการณ์ฝนในช่วงครึ่งหลังของฤดูฝนนี้อย่างใกล้ชิด ตามที่ได้รับรายงานจากการคาดการณ์ฝนล่วงหน้าของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า เดือนสิงหาคมฝนจะน้อยกว่าปกติถึงปลายเดือน ส่วนเดือนกันยายนฝนจะมากกว่าปกติ ยกเว้น ภาคตะวันออก ขณะที่เดือนตุลาคมนั้นฝนจะมากกว่าปกติค่อนข้างมากตั้งแต่ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ลงไปครอบคลุมทั้งภาคใต้ ดังนั้น นอกจาก 10 มาตรการรับมือฤดูฝนที่เคยสั่งการไปแล้ว ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเน้นให้มีการดำเนินการลงไปถึงในพื้นที่เฉพาะเพิ่มเติมประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่


1.ในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน ขอให้หน่วยงานปฏิบัติปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ พยายามเก็บกับน้ำไว้เป็นน้ำต้นทุนในช่วงฤดูแล้ง ทั้งในอ่างเก็บน้ำ แก้มลิงและในแหล่งน้ำสาธารณะ

2.ในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม ให้ความสำคัญเกี่ยวกับภัยที่จะเกิดจากฝนตกหนัก ทั้งในเรื่องน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลาดชัน และปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เฉพาะ ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก โดยใช้กลไกการทำงานร่วมกับคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงกรุงเทพมหานครเร่งสำรวจลงในรายละเอียดในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจะเกิดน้ำหลาก ดินถล่ม และน้ำท่วมขัง โดยให้จำแนกพื้นเสี่ยงภัย ออกเป็น พื้นที่เศรษฐกิจและที่อยู่อาศัยของชุมชนเมือง ชุมชนชนบท และพื้นที่เกษตร พร้อมทั้งให้เตรียมความพร้อมและกำหนดมาตรการที่จะรองรับภัยในพื้นที่เฉพาะนั้นๆ ให้เกิดความชัดเจนเป็นรูปธรรมด้วย โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมต่อเนื่องถึงกันยายนขอให้เน้นย้ำการเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มีการวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมรอการระบายอย่างเข้มข้น อาทิ การตรวจสอบอุโมงค์ระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ ให้พร้อมใช้งาน และการลดระดับน้ำในคลองต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับควบคุมอยู่เสมอ ส่วนในพื้นที่ภาคใต้ให้เตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม


3.มอบหมายให้ สทนช. ติดตามผลการสำรวจและการเตรียมความพร้อมฯ ของทุกจังหวัด รวมทั้ง กทม.อย่างใกล้ชิด และติดตามวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์หากมีโอกาสเกิดอุทกภัยเป็นวงกว้างครอบคลุมมากกว่า 1 จังหวัด ต้องประสานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยวางแผนเตรียมรับสถานการณ์ที่คาดว่ามีความรุนแรงจะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด และ 4.นอกจากฝนที่จะตกตามฤดูกาลที่มีโอกาสมากกว่าปกติแล้ว ขอให้ กอนช. ติดตามสถานการณ์พายุในช่วงปลายฤดูยังมีโอกาสเกิดพายุโซนร้อนทั้งในมหาสมุทรปาซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย ตามที่ได้มีการคาดการณ์ว่าว่าจะมีอย่างน้อย 2-3 ลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้หน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมวางแผนเชิงป้องกัน การแจ้งเตือน การอพยพเคลื่อนย้าย และลดผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สินของประชาชนล่วงหน้าได้ทันต่อสถานการณ์ด้วย

ทั้งนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมกองอำนวยการน้ำแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ กนอช.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ในสัปดาห์หน้าเพื่อติดตามความก้าวหน้าต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด