ญี่ปุ่น 2 ส.ค. – สุดาพร สีสอนดี เตรียมชกรอบ 8 คนสุดท้าย มวยสากลฯ โตเกียวเกมส์ วันพรุ่งนี้ ชนะการันตีเหรียญทองแดง ขณะที่ “โปรเม” เอรียา และ “โปรแพตตี้” ปภังกร พร้อมลุยกอล์ฟหญิงในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ สมาคมมวยฯ ไม่ติดใจผลตัดสิน “ฉัตร์ชัยเดชา”
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ผู้จัดการทีม ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวย กล่าวหลัง “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี แพ้ต่อ “ลาซาโร อัลวาเรซ” นักชกจากคิวบา ไปแบบคู่คี่สูสี 2-3 เสียง จนทำให้ตกรอบ 8 คนสุดท้าย มวยสากล โอลิมปิกเกมส์ 2020 ว่าตนพูดในฐานะคนทำมวย คิดว่าเราไม่น่าแพ้ แต่ยอมรับในคำตัดสินของกรรมการในการทำหน้าที่ครั้งนี้ อย่างที่บอกทั้งคู่ต่างมีดีกรีและมีประสบการณ์ที่สูงพอๆ กัน หากเกมไม่ขาด โอกาสที่จะออกหน้าไหนก็ได้ ในเรื่องของการตัดสินตนรับได้ เพราะไอโอซี หรือคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ได้เน้นย้ำอยู่ตลอดถึงความโปร่งใส แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องชื่นชมสปิริตของ “เจ้าสด” ทำหน้าที่ครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์
ส่วนวันพรุ่งนี้ เวลา 10.50 “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกวัย 29 ปี ดีกรีเหรียญเงินศึกชิงแชมป์โลก จะชกในรอบ 8 คนสุดท้าย พบ แคโรไลน์ ดูบัวส์ จากสหราชอาณาจักร วัย 20 ปี ในรุ่นไลท์เวท 60 กก.หญิง หากชนะจะคว้าเหรียญทองแดงเป็นอย่างน้อย
ด้านความเคลื่อนไหวของทีมขี่ม้าอีเวนติ้งไทย หลังจากที่ 3 นักกีฬาขี่ม้าไทยแข่งขันไม่จบ ในการแข่งขันอีเวนติ้ง วันที่ 2 ประเภทครอสคันทรี โดย “มิ้นต์” อารีย์ณัฎฐา ชวตานนท์ และม้า Boleybawn Prince ประสบอุบัติเหตุ หลังกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางเท้า, “บอมบ์” วีรภัฏ ปิฏกานนท์ และม้า Carnival March ตกม้า ส่วน “นัท” กรธวัช สำราญ และม้า Bonero K ปฏิเสธการกระโดด ทำให้แข่งไม่จบ ถูกปรับคนละ 200 คะแนน และหล่นไปอยู่อันดับสุดท้ายที่ 15
นายนารา เกตุสิงห์ ผู้จัดการทีมขี่ม้าทีมชาติไทย ได้ทำหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทีมขี่ม้า รวมถึงทีมสัตวแพทย์ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง (Jumping) ในวันนี้ เพื่อสวัสดิภาพที่ดีของม้าในอนาคต และการรักษาสภาพร่างกายม้าให้สมบูรณ์ต่อการแข่งขันในระยะยาว ยืนยันม้าและนักกีฬาทุกคนปลอดภัย และไม่มีอาการบาดเจ็บรุนแรง
การแข่งขันปืนสั้นยิงเร็ว 25 เมตร กีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่สนามอาซากะ ชู้ตติ้ง เรนจ์ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 2 สิงหาคม เป็นการแข่งขันสเตจที่ 2 หลังจบวันแรก “กัปตัน” อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ นักแม่นปืนหนุ่มไทยวัย 17 ปี ลั่นกระสุนได้อันดับ 14 รวม 286 คะแนน
การยิงวันที่สอง อิสรานุอุดม ยิงทำ 284 คะแนน รวม 2 วัน 570 จบที่อันดับ 20 จากทั้งหมด 26 คน ไม่ติดอันดับ 1-6 ที่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
“กัปตัน” ที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เป็นสมัยแรกในชีวิต กล่าวว่า ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าที่สุดของตนเองที่ได้แข่งขันกับนักกีฬาจากทั่วโลก และจะขอมุ่งมั่นฝึกซ้อมพัฒนาตนเองต่อไป
ด้านความเคลื่อนไหวของกอล์ฟหญิงโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่จะแข่งขันรอบแรก ในวันที่ 4 สิงหาคม ล่าสุดมีการแบ่งก๊วนตีกันเรียบร้อยแล้ว โดย “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ โปรสาวไทยมือ 13 ของโลก จะออกรอบพร้อมกับ ลี มิน จี โปรจากออสเตรเลีย มือ 7 ของโลก และโซเฟีย โปปอฟ มือ 26 ของโลก จากเยอรมนี จะออกรอบในเวลา 08.14 น. ส่วน “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล มือ 21 ของโลก อยู่ในก๊วนเดียวกับ คิม ฮโย จู มือ 6 ของโลก จากเกาหลีใต้ และคาร์โลตา ซิกันดา มือ 35 ของโลก จากสเปน จะออกรอบในเวลา 08.25 น. ออกรอบต่อกัน
การแข่งขันกรีฑาที่สนามโอลิมปิก สเตเดียม วิ่งข้ามรั้ว 100 เมตรหญิง ปรากฏว่า จัสมิน คามาโช ควิน ลมกรดวัย 24 ปี จากเปอร์โตริโก วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยสถิติ 12.37 วินาที คว้าเหรียญทอง อันดับ 2 เคนดร้า แฮร์ริสัน จากสหรัฐ 12.52 และเหรียญทองแดง เมแกน แทปเปอร์ จากจาไมกา เวลา 12.55 วินาที
กระโดดไกลไกลชาย มิลเทียดิส เทนโตกลู จากกรีซ ทำสถิติดีที่สุดที่ 8.41 เมตร เท่ากับ ฮวน มิเกล อีเชวาร์เรีย จากคิวบา แต่สถิติครั้งอื่นๆ ของนักกระโดดไกลจากกรีซที่ทำได้ดีกว่าจึงทำให้ เทนโตกลูคว้าเหรียญทองไป ส่วน อิเชวาร์เรีย ได้เหรียญเงิน เหรียญทองแดงตกเป็นของ เมย์เคล มาสโซ จากคิวบา
แบดมินตันหญิงคู่ โอลิมปิกเกมส์ รอบชิงเหรียญทอง เกรเซีย โปลี และอาพริยานี ราฮายู นักตบขนไก่หญิงคู่อินโดนีเซีย คู่มือ 6 ของโลก สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์แบดมินตันหญิงคู่ โอลิมปิกเกมส์ เป็นครั้งแรกให้กับประเทศ หลังเอาชนะคู่มือ 3 ของโลกจากจีน เฉิน ชิง เฉิน กับ เจีย อี้ ฟ่าน 2-0 เกม 21-19, 21-15 โดยถือเป็นเหรียญทองแรกของอินโดนีเซียในโอลิมปิกครั้งนี้ และเป็นเหรียญแบดมินตันหญิงคู่โอลิมปิกเหรียญแรก ตอนนี้อินโดนีเซียได้ไปแล้ว 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง เป็นชาติอาเซียนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในตอนนี้
ฟาน ฮัสซัน นักวิ่งระยะไกลทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เรียกเสียงปรบมือให้กับแฟนกีฬาอย่างมากในการแข่งขันวิ่ง 1,500 เมตร รอบคัดเลือก ฮัสซันเจ้าของแชมป์โลกรายการ 1,500 และ 10,000 เมตร ในปี 2019 ชนกับนักวิ่งเอธิโอเปียล้มลงแต่ก็ลุกขึ้นมาเร่งสปีดเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 4 นาที 05.17 วินาที ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป
หลังจากที่คริสตินา ทิมานอฟสกายา นักวิ่งทีมชาติเบลารุส ร้องขอการดูแลจากตำรวจญี่ปุ่นและขอลี้ภัย เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่สนามบินฮาเนดะ ในกรุงโตเกียว หลังจากคณะกรรมการโอลิมปิกเบลารุสจะส่งเธอกลับบ้าน เพราะไปตำหนิโค้ชที่ส่งแข่งขันผิดรายการ
มาร์ก อดัมส์ โฆษกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เปิดเผยว่า ไอโอซีจะมีการหารือร่วมกับตำรวจญี่ปุ่นและตัวนักกีฬาถึงวันต่อๆ ไปที่จะอยู่ในญี่ปุ่น และไอโอซีจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เมื่อทิมานอฟสกายาได้ตัดสินใจแล้ว
มีรายงานว่าต้องการลี้ภัยไปอยู่ในประเทศอื่นในทวีปยุโรป พร้อมอ้าแขนรับนักกรีฑาคนนี้ไปอยู่ในประเทศ
สีสันโตเกียวเกมส์ สองนักวิ่ง อิซาห์ เจเว็ต จากสหรัฐ และไนเจล เอมอส จากบอตสวานา วิ่งชนกันเองระหว่างรอบคัดเลือกวิ่ง 800 เมตร จนล้มไปด้วยกัน แต่ยังกอดคอกันเดิน และวิ่งเข้าเส้นชัยไปด้วยกัน เรียกเสียงปรบมือจากทั้งสนาม แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ผ่านสู่รอบชิงชนะเลิศ.-สำนักข่าวไทย