ปราจีนบุรี 9 มี.ค. – ย้อนดูสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 หรือ “สายปากเกร็ด-สะพานต่างระดับนครราชสีมา” มีจุดอันตรายที่แจ้งเตือนให้ระมัดระวังในการเดินทาง คือ บริเวณช่วงกบินทร์บุรี-ปักธงชัย กิโลเมตรที่ 42-48 อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี โดยเป็นถนนขึ้นลงเขา ทางลาดชัน และคดเคี้ยว
เหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2551 รถบัสแหกโค้งเสียชีวิต 21 ราย รวมถึงปี 2557 รถทัวร์เบรกแตกชนกับรถพ่วง 18 ล้อ เสียชีวิต 14 ราย และล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 22 ล้อ เบรกแตกชนยับกว่า 10 คัน ช่วงกิโลเมตรที่ 210-211 ทำให้เกิดเพลิงไหม้ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 ราย
ส่วนสถิติหากแยกเฉพาะกลุ่ม รถทัศนศึกษา เปรียบเทียบระหว่างปี 2558-2559 พบว่าในปี 2558 เกิดอุบัติเหตุ 6 ครั้ง ในทุกสายทางทั่วประเทศ มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บอีก 119 คน ส่วนในปี 2559 เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 10 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 195 คน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยใน 10 ครั้งเป็นรถโดยสารชั้นเดียว 7 ครั้ง และเป็นรถสองชั้น 3 ครั้ง และ 3 ใน 10 ครั้งเป็นการเดินทางกลางคืน เหตุเกิดมักจะอยู่ในช่วงเวลา 03.00-04.00 น.
ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นวันนี้ (9 มี.ค.) เป็นรถทัวร์ปรับอากาศ 2 ชั้น นำนักเรียนจากขอนแก่นไปทัศนศึกษาที่ จ.จันทบุรี แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุโค้งเนินเขาศาลเจ้าพ่อปูโทน ซึ่งเป็นทางชันและคดเคี้ยว รถเกิดเบรกแตก ชนกับแผงกั้นคอนกรีต รวมถึงเสาไฟฟ้าแรงสูง ก่อนตกเหวฝั่งอุทยานฯ เขาใหญ่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นครู 4 คน และนักเรียน 2 คน บาดเจ็บร่วม 40 คน
ขณะที่บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเดินทางไปที่โรงพยาบาลนาดี เพื่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ท่ามกลางความโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ยังคงให้นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่ออีกคืน ก่อนส่งกลับภูมิลำเนาในวันพรุ่งนี้ ขณะที่คนขับรถซึ่งได้รับบาดเจ็บกระดูกคอร้าว ระบุว่า พยายามควบคุมรถเต็มที่แล้วหลังรู้ว่าเบรกมีปัญหา แต่เพราะเป็นทางลาดชันจึงควบคุมรถไม่อยู่ และชนกับแท่งปูนจนพลิกคว่ำตกเขา
ด้านนายพงษ์ศักด์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าฯ ขอนแก่น กล่าวว่า หลังได้รับรายงานเหตุดังกล่าว ได้สั่งให้ผู้อำนวยการ สพฐ. 25 เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมสั่งให้นายอำเภอน้ำพองไปช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวทุกได้รับผลกระทบ ส่วนความช่วยเหลือเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตทั้ง 6 คนจะได้รับเงินสินไหมทดแทนจากการทำประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ โดยครูจะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 400,000 บาท ส่วนนักเรียนจะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 500,000 บาท. – สำนักข่าวไทย