ป.ป.ช. 19 ก.ค.- “วัชระ เพชรทอง” ร้อง ป.ป.ช. ตรวจสอบ “สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์” กกต. ใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อประโยชน์ส่วนตัว-ฝ่าฝืนจริยธรรม หลังหอบหลักฐาน ร่วมงานบุญ-เชงเม้ง และเลี้ยงฉลองวันเกิด
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนนายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีพฤติกรรมกระทำผิดกฏหมายและฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง เนื่องจากใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อประโยชน์ส่วนตนและนำรถยนต์ทางราชการไปงานเชงเม้งและอื่นๆ ทั้งนี้ นายวัชระ เผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการ กกต. พบพฤติกรรมหลายอย่าง ประกอบด้วย การเบิกจ่ายค่าเบี้ยประชุมกรรมการ ซ้ำซ้อนกับการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงในวันเดินทาง เป็นกรณีที่ผู้เบิกจ่าย อ้างว่าเข้าร่วมประชุม กกต. ในช่วงเช้าและเดินทางในช่วงบ่ายหลายรายการ นับตั้งแต่เริ่มดำรงตำแหน่ง โดยได้รับเบี้ยประชุมและเบี้ยเลี้ยงภายในวันเดียวกัน ซึ่งขัดต่อระเบียบและจริยธรรม มีการเบิกจ่ายรายการเดินทางไม่สมเหตุสมผล ซึ่งนายสันทัดมีการเดินทางทุกอาทิตย์ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งรวมทั้งวันหยุดราชการโดยมีการขออนุมัติเบิกจ่ายตลอดทุกครั้งที่เดินทาง เมื่อเทียบกับ กกต.คนอื่นๆ แล้วไม่ได้มีการเดินทางบ่อยครั้งและไม่ได้เบิกจ่ายงบประมาณมากถึงขนาดนี้ โดยมีการเดินทางครบ 77 จังหวัดตั้งแต่ปีแรกที่ดำรงตำแหน่ง ทั้งนี้มีเอกสารการเบิกจ่ายชัดเจน
นายวัชระ ยังเผยว่า มีการเบียดบังเวลาราชการไปตีกอล์ฟที่เขาใหญ่เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 โดยใช้รถรับรองของ กกต. ทั้งที่เป็นภารกิจส่วนตัว และในการเดินทางยังเบิกค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทนอื่นๆ และนำพนักงานส่วนกลางไปรับใช้ด้วย นอกจากนี้ ยังนำรถรับรองไปใช้ส่วนตัวในการทำบุญกับครอบครัว ที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2563 และร่วมพิธีสวดนพเคราะห์ วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2563 โดยทั้ง 2 งานมีภาพถ่ายปรากฎหลักฐานชัดเจน รวมทั้งการ เป็นประธานงานทอดผ้าป่าวัดโคกมะตูม เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ขออนุมัติเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนครสวรรค์เพื่อตรวจหน่วยเลือกตั้งเพียงหน่วยเดียว
นายวัชระ ยังกล่าวว่าในวันที่ 3 เมษายน 2564 นายสันทัด เดินทางไปประกอบพิธีงานเชงเม้ง โดยใช้รถตู้รถรับรอง รวมจะมีพนักงาน กกต. เดินทางไปร่วม ทั้งนี้การเดินทางไปราชการในวันทำการและวันหยุด เป็นเหตุให้ผู้บริหารและพนักงานไม่ได้พักผ่อนต้องคอยดูแลหากไม่ได้รับการดูแลที่ดีก็จะมีผลต่อความก้าวหน้า โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ว่า กกต. จังหวัดจะเตรียมการต้อนรับพาไปวัดที่ท่องเที่ยว โดยไม่ได้สนใจในภารกิจ
นอกจากนี้ยังทำผิดกฏหมายเรื่องการดื่มสุราในสถานที่ปฏิบัติงานราชการ คือที่สำนักงาน กกต. โดยได้มีการจัดเลี้ยงฉลองวันเกิดภายในสำนักงาน ถือเป็นการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
โดยพฤติกรรมดังกล่าวถือว่าขัดต่อข้อ 7 ของมาตรฐานจริยธรรม และข้อ 8 แสวงหาประโยชน์อันมิชอบเพื่อตนเอง ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนที่ถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามข้อ 27 จึงเห็นว่าอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ที่จะตรวจสอบ และขอให้กันพนักงาน กกต.ที่ร้องเรียนเป็นพยานด้วย.-สำนักข่าวไทย