ดูไบ 28 ก.พ. – แหล่งข่าว 5 แห่งจากองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และอุตสาหกรรมน้ำมันเผยว่า ซาอุดีอาระเบียต้องการให้ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 60 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,093 บาท) ต่อบาร์เรลภายในปีนี้
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 14 นับแต่กลุ่มโอเปก รัสเซีย และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มอื่นๆ จัดทำข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว บรรดาผู้ผลิตน้ำมันตกลงที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงราว 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมา นับเป็นการประกาศลดกำลังการผลิตครั้งแรกในรอบ 8 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันราคาน้ำมันดิบให้เพิ่มสูงขึ้น และแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำมันล้นตลาด
อย่างไรก็ดี แม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังเกิดความร่วมมือกันในหมู่กลุ่มผู้ผลิต แต่ราคาซื้อขาย ณ ปัจจุบันยังอยู่แค่ประมาณ 56 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,954 บาท) ต่อบาร์เรล แหล่งข่าวเผยว่า ซาอุดีอาระเบียต้องการให้ราคาน้ำมันถีบตัวแตะ 60 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้ เพราะระดับราคาดังกล่าวส่งผลดีต่อการลงทุนในน้ำมัน แหล่งข่าวอีกแห่งเห็นตรงกันว่า กลุ่มโอเปก โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย ต้องการให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ไม่ใช่เพียงเพื่อสนับสนุนการลงทุน แต่รวมถึงสนับสนุนแผนถอนการถือครองหุ้นในซาอุดิอารามโก บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของประเทศ นอกจากนี้ แหล่งข่าวเผยอีกว่า ราคาน้ำมันดิบที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลจะไม่ส่งผลให้สหรัฐปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันมากนัก.- สำนักข่าวไทย