กรุงเทพฯ 21 พ.ย. – ทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันกลุ่ม ปตท. (PRISM) ประเมินทิศทางน้ำมันปี 2568 ผันผวนสูง คาดราคาน้ำมันอยู่ระดับ 70-80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ท่ามกลางความท้าทายด้านกำลังการผลิตที่สูงกว่าความต้องการใช้ถึง 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน
นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน กล่าวในงานสัมมนา 2024 The Annual Petroleum Outlook Forum “Regenerative Thailand with Cleanergy : คิดนำ ล้ำหน้า ขับเคลื่อนอนาคตไทย ด้วยพลังงานสะอาด” ว่า ประเทศไทยและอาเซียนต้องปรับตัวสู่พลังงานสะอาดมากขึ้น ยิ่งในช่วงของการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ก๊าซธรรมชาติถือเป็นพลังงานสะอาดซึ่งต้องใช้ควบคู่กับพลังงานสะอาดใหม่ๆ เข่น ไฮโดรเจน, ระบบการกักและเก็บคาร์บอน ( CCS) และพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยด้านพลังงานต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดด้วย
ด้านทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน กลุ่ม ปตท. (PRISM Experts) ระบุ แนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันในปี 2568 ยังมีทิศทางเติบโตในกรอบ 1.2 -1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้จะมีความเสี่ยงในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด การกีดกันทางการค้า หรือ ความเข้มงวดนโยบายทางการค้า แต่ก็มีปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง และการใช้น้ำมันของอินเดีย จะช่วยเพิ่มความต้องการใช้น้ำมันของปีหน้าได้
ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปี 2568 ก็ยังจะมีความผันผวนหนัก จากความไม่แน่นอนของปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐหลังการเลือกตั้ง สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่าน ที่อาจจะเข้มข้นขึ้น โดยคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2568 จะเคลื่อนไหวในกรอบ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล แต่ทั้งนี้ยังต้องจับตานโยบายปรับพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC+
อย่างไรก็ตามปีหน้าจะมีซัพพลายน้ำมันจากฝั่ง non OPEC+ อยู่ที่ 1.4 ล้านบาเรลต่อวัน ขณะที่ฝั่ง OPEC+ จะมีซัพพลายอยู่ที่ 1.1 ล้านบาเรลต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้ซัพพลายปีหน้าอยู่ที่ 2.5 ล้านบาเรลต่อวัน ขณะที่แนวโน้มความต้องการใช้อยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านบาเรลต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตสูงกว่าความต้องการใช้ถึง 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน .-517-สำนักข่าวไทย