ทำเนียบฯ 1 มี.ค.- วิษณุ ขอให้ไปอ่านคำสั่ง หน.คสช.ที่ 5/2560 ให้ดี ไม่ได้ใช้เฉพาะพื้นที่วัดพระธรรมกายเท่านั้น ยืนยันจะไม่มีการยกเลิก ปัดให้ความเห็นใช้กฎหมายอื่นมาดูแลแทน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปฏิบัติการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายว่า ไม่มีการรายงานเรื่องนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) ส่วนการจะยกระดับการปฏิบัติการ เป็นเรื่องของหน่วยปฏิบัติการพิจารณาดำเนินการ ไม่จำเป็นต้องมารายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ข่าวรั่ว เพราะคนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมมีเป็นร้อยคน และไม่จำเป็นต้องประกาศใช้กฎหมายหรือคำสั่งอื่นใดอีกมาดำเนินการ
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ที่จะนำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 หรือกฎอัยการศึกมาใช้แทนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามฝ่ายความมั่นคง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. มาควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย รัฐบาลได้ประเมินหรือไม่ว่าจะเจอกับสถานการณ์ความวุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่ขณะนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า เพราะคิดว่าจะเจออย่างนั้น จึงต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว เพื่อออกคำสั่งหัวหน้า คสช. และถ้าอ่านคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 5/2560 จะเห็นว่าไม่ได้ใช้เฉพาะกับกรณีของวัดพระธรรมกาย แต่เป็นคำสั่งที่สามารถใช้ควบคุมเหตุการณ์ทำนองนี้ในพื้นที่อื่นๆ ถ้าเลิกคำสั่งนี้ แล้วเกิดเหตุการณ์ในจังหวัดอื่นๆ ก็จะไม่มีคำสั่งไปใช้ควบคุมสถานการณ์ตรงนั้น
“การใช้มาตรานี้เพื่อจัดการกับเหตุการณ์ ดังนั้น การที่มีคนพูดว่าขอให้ยกเลิกการออกคำสั่งตามมาตรา 44 เป็นการพูดรวมๆ ผมรู้ว่าคนที่ออกมาพูดไม่ได้หมายความอย่างนั้น ถ้าจะเรียกร้องให้ยกเลิก อย่างมากสามารถบอกว่าขอให้งดใช้คำสั่งนี้กับกรณีวัดพระธรรมกาย อาจถูกต้องมากกว่า แต่หากจะให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวเลยคงไม่มีใครทำ” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า คำสั่งนี้ยังมีอยู่ต่อไป ส่วนจะบังคับใช้มากน้อยแค่ไหนก็มีการระบุมาตรการจากเบาไปหาหนักอยู่แล้วในคำสั่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถเลือกใช้ข้อใดข้อหนึ่งก็ได้ พร้อมย้ำว่าการออกคำสั่งดังกล่าวมุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่สามารถดูแลพื้นที่วัดพระธรรมกายและบริเวณโดยรอบ และเพื่อดูแลคนที่เดินผ่านไปมาในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยตามปกติ.-สำนักข่าวไทย