รัฐสภา 6 ก.ค.-ตัวแทนสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิง บุกสภา ยื่นหนังสือถึงพรรคพลังประชารัฐ ขอให้ความเป็นธรรมหลังตกงานมากว่า 250 วันแต่ไร้การเยียวยา ด้านสิระ เตรียมส่งด่วนให้พรรคบ่ายนี้ พร้อมเตรียมนำเข้าที่ประชุม กมธ.กฎหมาย เชิญ ศบค.แจงมาตรการเยียวยาที่ไม่เป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตัวแทนสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย ชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผับบาร์(รายย่อย) ชมรมดนตรีแห่งประเทศไทย ชมรมดีเจและโปรดิวเซอร์ กรุงเทพฯ ชมรมคนทำคอนเสิร์ตและอีเว้นต์ ชมรมดราฟท์เบียร์ ชมรมบาร์เท็นเดอร์ กรุงเทพฯ เดินทางเข้ายื่นหนังสือข้อเรียกร้องถึงพรรคพลังประชารัฐ ผ่านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน
โดยตัวแทนของสมาพันธ์ฯ ได้กล่าวว่า ธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงได้รับความเดือดร้อนตกงานกันมากว่า 250 วันตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 และยังมองไม่เห็นหนทางที่จะได้กลับมาประกอบอาชีพเพื่อมีรายได้อีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการยื่นหนังสือให้กับพรรคการเมืองต่างๆ 5 พรรคการเมือง รวมถึงหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่มีหนึ่งพรรคการเมืองที่ต้องการยื่นโดยตรงมากที่สุดคือพรรคพลังประชารัฐ โดยหวังว่าเสียงของพวกเราจะดังไปถึงหน่วยงานและองค์กรที่มีอำนาจในการตัดสินใจสักครั้ง
“เราหมดหนทางจริงๆทุกคน ตั้งแต่คนที่ตัวเล็กที่สุดในวงการ คนที่เราห่วงที่สุด เขาไม่มีแม้แต่กำลังใจ ไม่ต้องพูดถึงเม็ดเงิน กำลังใจก็แทบจะไม่มีเหลือกันแล้ว เป็นสิ่งที่เราเจอกันมาปีครึ่ง และก็ไม่รู้ว่าหนทางจะไปจบตรงไหน”ตัวแทนสมาพันธ์ กล่าว
ส่วนข้อเรียกร้องมี 4 หัวข้อหลัก คือ 1.การปิดสถานบันเทิงแบบเหมารวม ที่ผ่านมาสถานบันเทิงเป็นเด็กดีมาโดยตลอด ทุกครั้งที่มีการเกิดโรคระบาดจะโดนปิดก่อนและเปิดทีหลัง 2.มาตรการเยียวยาที่ยังไม่ทั่วถึง และรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งต่างจากแคมป์ก่อสร้างที่เป็นต้นตอของการแพร่ระบาดกลับได้รับการเยียวยา แต่สถานบันเทิงและกลุ่มอาชีพอิสระกับถูกเพิกเฉย 3.เรื่องของวัคซีน ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ เพราะอาชีพของเราต้องการคนเข้าร่วมงานให้กำลังใจ ดังนั้นการเข้าถึงภูมิคุ้มกันหมู่ การเข้าถึงวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องสำคัญ 4.การรับฟังแง่มุมของกลุ่มอาชีพสถานบันเทิง เพราะที่ผ่านมาภาครัฐสั่งปิดโดยที่กลุ่มอาชีพเราไม่ได้ร่วมตัดสินใจและหาทางออก
ด้านนายสิระ กล่าวว่า ตนในฐานะเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ วันนี้(6ก.ค.) เวลา 15.00น. จะมีการประชุมสมาชิกของพรรค ตนจะนำหนังสือดังกล่าวเข้ายื่นต่อพรรคโดยด่วน และในฐานะที่ตนเป็นผู้แทนราษฎรก็ขอทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงให้กับสมาพันธ์ฯที่มายื่น เพื่อสะท้อนให้ถึงหูรัฐบาลว่ากลุ่มนี้ตลอด2ปีที่ผ่านมาเป็นเด็กดีมาโดยตลอด ไม่มีต้นเหตุในการแพร่เชื่อเหมือนกับแคมป์คนงานที่มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจนเกิดการแพร่เชื้อสร้างผลกระทบที่รุนแรงต่อประชาชนและงบประมาณ รวมถึงเศรษฐกิจ ซึ่งแคมป์คนงานมีนายจ้างที่ร่ำรวยและตนได้เรียกร้องมาโดยตลอดว่าเจ้าของธุรกิจที่ร่ำรวยและใช้แรงงานที่ผิดกฎหมายต้องออกมารับผิดชอบ ไม่ใช่เอาเงินงบประมาณไปดูแลคนที่ทำผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ นายสิระ กล่าวต่อว่า ตนในฐานะเป็นประธานกรรมาธิการการกฎหมายฯ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมาธิการฯ เพื่อพิจารณาว่าสิทธิของผู้ที่อยู่ในธุรกิจกลางคืนควรจะได้รับหรือไม่ แล้วจะเชิญ ศบค.เข้ามาสอบถามถึงมาตรการการเยียวยาที่กลุ่มหนึ่งได้รับ แต่อีกกลุ่มกลับไม่ได้รับการเยียวยา รวมถึงอาชีพอื่นๆหากได้รับผลกระทบก็สามารถเข้ามาร้องเรียนได้ ตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขอเป็นป่กเป็นเสียงให้กับประชาชน ขอให้ทุกคนได้ใช้ผู้แทนที่พวกท่านได้เลือกมาให้เกิดประโยชน์.-สำนักข่าวไทย